วันที่ 26 พ.ย.63 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเหตุความรุนแรงในช่วงท้ายของการชุมนุมกลุ่มราษฎรในการชุมนุมหน้าธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่เมื่อวานนี้ว่า ถ้าการชุมนุมเป็นไปในทางที่ถูกกฎหมาย รัฐบาลก็ไม่สามารห้ามได้ แต่การชุมนุมถูกต้องหรือไม่น้ัน จะต้องไปดู และตนไม่สามารถว่าใครได้ และไม่ว่าจะฝ่ายใดก็ตาม ก็ต้องเคารพกฎหมาย อย่ากระทำผิดกฎหมาย กฎหมายเขียนไว้อย่างไรก็อย่าไปทำผิด
วันนี้รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ไม่ว่าจะกี่กลุ่มก็ตาม แต่ทุกกลุ่มต้องไม่ทำผิดกฎหมาย และหากทำผิดต้องถูกดำเนินคดีเหมือนกัน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียใจว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
โดยวันนี้ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปตรวจสอบ ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ซึ่งมีข้อดีที่สื่อมวลชนได้บันทึกภาพไว้ทัน ไม่เช่นนั้นก็จะโทษกันไปโทษกันมา หรือโทษว่ารัฐบาลทำ แต่ยืนยันว่ารัฐบาลมีหน้าที่ดูแลประชาชนให้ปลอดภัย แต่ทุกคนต้องช่วยกัน อย่าให้เกิดขึ้น ซึ่งการชุมนุมต้องปลอดภัย ถ้าชุมนุมแล้วไม่ปลอดภัย คนที่ร่วมชุมนุมก็คงไม่ไป แต่ตนคิดว่าไม่ใช่ฝีมือการกระทำจากเจ้าหน้าที่
อย่างไรก็ตาม การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นทางออกในของความขัดแย้ง และควรจะต้องเร่งหารือให้เสร็จโดยเร็วหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นกระบวนการของรัฐสภา ซึ่งมีประธานสภาดูแลอยู่แล้ว รัฐบาลไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ เพราะเป็นฝ่ายบริหาร แต่เป็นเรื่องของพรรคการเมือง พรรคร่วมรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้านที่จะร่วมกันแก้ไข ดังนั้นขออย่าเอาปัญหามายัดใส่ฝ่ายบริหาร เพราะหน้าที่ดังกล่าวเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งนายกรัฐมนรีไปสั่งใครไม่ได้
นายกรัฐมนตรี ยังฝากให้คนทั้งประเทศร่วมกันกังวลกับสถานการณ์การชุมนุม เพราะที่ผ่านมาตนกังวลอยู่แล้ว ยิ่งนานไปเศรษฐกิจก็เสียหาย การจราจรก็ติดขัดมากขึ้น จึงอยากถามว่า การชุมนุมที่ผ่านมาได้ประโยชน์กับใคร อาจจะได้ประโยชน์กับบางคนหรือไม่ โดยอยากให้หาวิธีการอื่น ที่สงบ ที่ไม่มีอันตราย รวมถึงไม่ไปล่วงละเมิดใคร จึงฝากสื่อมวลชนช่วยกันพูดด้วย