Categories
ข่าว

จี้ กกต.เป็นธรรม! เพื่อไทยยัน “ทักษิณ” ช่วยหาเสียงได้ ลั่น! “ประยุทธ์” ก็เคยทำมาแล้ว!

วันที่ 18 ธ.ค. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ได้ยื่นคำร้องต่อ กกต.ขอให้ตรวจสอบพรรคเพื่อไทย กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้เผยแพร่คลิปช่วยหาเสียงสนับสนุนนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้สมัครนายก อบจ. เชียงใหม่ว่า

เป็นการครอบงำหรือชี้นำกิจกรรมของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ และยังขอให้ยุบพรรคเพื่อไทยว่า ในฐานะที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยหาเสียงของนายพิชัย ขอเรียนว่าเรื่องนี้ต้องแยกประเด็นเรื่องการเลือกตั้งกับการบริหารพรรคออกจากกัน เพราะการเลือกตั้งนั้นจะมีกฎหมาย และระเบียบ กกต.กำหนดไว้ ว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้

ซึ่งกรณีที่นายทักษิณ ได้ทำจดหมาย และคลิปภาพและเสียงสนับสนุนนายพิชัยและโพสต์ลงเฟสบุ๊กของตนเองนั้น ในระเบียบของ กกต.สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นอดีตนายกฯ ทักษิณหรือใครที่ต้องการเชียร์ผู้สมัครคนใดคนหนึ่ง ก็สามารถโพสต์สนับสนุนได้ เพียงแต่หากมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเกินห้าพันบาทก็แจ้งให้ผู้สมัครทราบ

หากผู้สมัครยอมรับก็นำค่าใช้จ่ายดังกล่าวไปรวมเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับการที่ท่านอดีตนายกฯ ทักษิณจะไปควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำการบริหารหรือการดำเนินกิจกรรมของพรรคเพื่อไทยเลย

นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า หากเปรียบเทียบกับกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 24 มี.ค.62 ระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ดำรงตำแหน่งนายกฯ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วย อีกทั้งไม่ได้เป็นสมาขิกพรรคพลังประชารัฐ กกต. ได้มีความเห็นว่า

พล.อ.ประยุทธ์สามารถช่วยพรรคพลังประชารัฐและผู้สมัครหาเสียงได้ เพียงแต่ต้องไม่กระทำการขัดต่อมาตรา 78 ของกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.เท่านั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ช่วยผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐหาเสียง ทั้งปรากฏตัวบนเวทีปราศรัย ส่งคลิปภาพและเสียงของตนเองที่สนับสนุนผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐและนำไปเปิดบนเวทีปราศรัยหาเสียงก็ทำมาแล้วในหลายเวที ไม่เห็นมีปัญหาอะไร

ทั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ มิได้เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ หากถือว่าการที่นายทักษิณทำจดหมายและพูดสนับสนุนนายพิชัยในการเลือกตั้งนายก อบจ. กับการที่พล.อ.ประยุทธ์ช่วยพรรคพลังประชารัฐและผู้สมัครของพรรคหาเสียง ส.ส. จะไม่ชัดเจนยิ่งกว่าหรือ

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า ขอฝากไปยัง กกต.ว่าต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างเป็นธรรม และขอฝากไปยังนายศรีสุวรรณว่าถ้าคิดจะเป็นผู้พิทักษ์รัฐธรรมนูญตามชื่อสมาคมที่ตนเองเป็นเลขาจริง การจะร้องเรียนอะไรก็ควรให้เป็นสาระมากกว่านี้ อย่าทำอะไรโดยมีวาระแอบแฝงหรือมีเบื้องหลัง

การจะสร้างชื่อเสียงให้กับตนเองนั้นมีวิธีอื่นทำได้อีกเยอะ ขอให้นายศรีสุวรรณ ไปดูว่าเรื่องที่ตนเองไปยื่นคำร้องตามหน่วยงานต่างๆ นั้น มีกี่เรื่องที่เป็นสาระบ้าง อย่าสร้างภาระแก่หน่วยงานของรัฐให้มากไปกว่านี้เลย ควรเอาเวลาไปทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนมากกว่า

เช่น การตรวจสอบการทุจริตของรัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐจะดีกว่า ช่วงนี้ใกล้วันเลือกตั้ง การจะทำอะไรที่มีผลกระทบต่อคะแนนนิยมของผู้สมัคร อาจผิดกฎหมายเลือกตั้งได้ ตนก็อยากถามนายศรีสุวรรณว่าทุกวันนี้ทำอาชีพอะไรเป็นหลักแหล่ง และมีรายได้จากทางไหนถึงมีเวลาไปเที่ยวร้องเรียนคนอื่นไปทั่ว และอย่าเที่ยวร้องซ้ำซาก