“กลับจากปีใหม่ เราจะมาร่วมกันที่นี่เพื่อที่จะยึดกรุงเทพฯ และจะยึดกรุงเทพฯ ให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด เพื่อเอาอำนาจอธิปไตยคืนกลับประชาชนให้ได้ และขอให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ต่างจังหวัดที่ประสงค์จะเข้ามาปฏิบัติการยึดกรุงเทพฯ ร่วมกับพวกเราเตรียมตัวให้เรียบร้อย รอฟังสัญญาณ และมาคราวนี้ให้เตรียมเสื้อผ้าข้าวปลาอาหารมาให้พร้อม เพราะต้องสู้กันเป็นเดือน สู้กันจนกว่าชนะ” สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. กล่าวปราศรัยบนเวทีในคืนวันที่ 27 ธันวาคม 2556 ก่อนเริ่มปฏิบัติการ ‘Shutdown กรุงเทพฯ’ ที่กำหนดให้วันที่ 13 มกราคม 2557 หรือวันนี้เมื่อ 7 ปีที่แล้วเป็นวันเริ่มเคลื่อนขบวน
เหตุการณ์ Shutdown กรุงเทพฯ เกิดจากยุทธศาสตร์ของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ในระหว่างวันที่ 13 มกราคม 2557 ถึง 2 มีนาคม 2557 เพื่อรณรงค์กดดันให้รัฐบาลรักษาการ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่ง ทั้งยังเสนอให้ดำเนินการปฏิรูปการเมืองในทุกระดับก่อนที่จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ซึ่งกำหนดให้มีขึ้นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 โดยกระจายผู้ชุมนุมเข้าตรึงพื้นที่ 7 แห่งทั่วกรุงเทพฯ ได้แก่ แจ้งวัฒนะ, ห้าแยกลาดพร้าว, อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, แยกปทุมวัน, สวนลุมพินี, อโศก และแยกราชประสงค์ และกระจายกำลังเข้ายึดสถานที่ราชการหลายแห่งในกรุงเทพฯ
จากเหตุปะทะ การใช้อาวุธ และความรุนแรงที่เกิดขึ้นหลายครั้งในเหตุการณ์นี้นำไปสู่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาลที่มีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ 22 มกราคม 2557 ถึงวันที่ 22 มีนาคม 2557
หลังเหตุการณ์ยืดเยื้อต่อเนื่องมานับเดือน ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 สุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศบนเวทีปราศรัยคืนพื้นที่จราจร และย้ายเวทีไปตั้งมั่นที่สวนลุมพินีเพียงแห่งเดียว ถือเป็นการสิ้นสุดยุทธศาสตร์ ‘Shutdown กรุงเทพฯ’ แต่ขบวนการเคลื่อนไหวของมวลชนยังคงดำเนินการต่อต้านขับไล่รัฐบาลรักษาการ และเรียกร้องการปฏิรูปประเทศต่อไป จนกระทั่งวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ก่อนที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
