Categories
ข่าว

ลืมแล้วหรือ?! “แรมโบ้” ซัด “ยิ่งลักษณ์” รัฐบาลไหนโกงเงินชาวนาจนต้องผู กค อ ต า ย รมต.ติดคุก แต่อดีตนายกฯ หนีไป

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2564 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ในโอกาส ‘วันสตรีสากล’ ระบุว่า ไทยยังตกอยู่ในสภาวะที่สิทธิเสรีภาพถูกลิดรอน ต้องแก้รัฐธรรมนูญให้ยึดโยงประชาชน คุ้มครองเสรีภาพ ลดความเหลื่อมล้ำว่า เรื่องดังกล่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยเฉพาะในประเด็นที่ไทยยังตกในสภาวะที่สิทธิเสรีภาพถูกลิดรอน ซึ่งหากนางสาวยิ่งลักษณ์ฯ หมายถึงการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของกลุ่มม็อบ 3 นิ้ว ขอยืนยันว่า นายกฯ ไม่เคยห้ามให้มีการชุมนุมตั้งแต่แรก เพียงแต่ขอให้เป็นไปด้วยความสงบ ไม่ผิดกฎหมาย แต่ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมไม่เคยทำตามกฎหมายเลยแม้แต่น้อย มีแต่ใช้ความรุนแรง ตรงข้ามเจ้าหน้าที่ถูกทำร้ายบาดเจ็บมากมายแต่เจ้าหน้าที่ยังใช้ความอดทนอย่างสูง ยังไม่เคยทำให้ผู้ชุมนุมเสียชีวิตแม้แต่รายเดียว มีแต่ใช้กฎหมายเข้ามาดำเนินการกับผู้ชุมนุม ไม่เหมือนรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ที่ใช้การสลายที่รุนแรง คุกคามสิทธิประชาชนมากกว่าหลายเท่า

นายสุภรณ์กล่าวว่า ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ และนายกฯ หรือรัฐบาลได้สนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่ โดยไม่เข้าไปแทรกแซง หรือมีใบสั่งให้กับสมาชิกรัฐสภาเลย อีกทั้งตลอดการบริหารบ้านเมือง นายกฯ รัฐบาลได้ดูแลประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ยึดโยงประชาชนเป็นหลัก ไม่เคยไปคิดก้าวล่วงสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่ใช้ชีวิตอย่างปกติสุข รัฐบาลยังได้ออกกฎหมายคุ้มครองสิทธิ และเพิ่มสวัสดิการให้กับสตรี เด็กเยาวชน ผู้พิการ ผู้สูงอายุ กลุ่มเปราะบางและผู้ใช้แรงงานมากมายหลายเรื่อง

นายสุภรณ์ยังระบุว่า ภายใต้การบริหารประเทศของพลเอกประยุทธ์ ประเทศไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ได้รับการแก้ไขปัญหาหลายอย่างที่สะสมมานาน รวมถึงมีการพัฒนาหลายด้าน เป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ โดยที่รัฐบาลในยุคนางสาวยิ่งลักษณ์ไม่คิดจะทำเลยสักนิด เข้าใจว่านางสาวยิ่งลักษณ์หลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานาน จึงไม่รู้ว่าประเทศไทยเป็นอย่างไร มีการแก้ไขและพัฒนาในหลายด้านไปถึงไหนแล้ว คงคิดถึงแต่ภาพเก่าๆ ในสมัยที่นางสาวยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ ที่ประเทศไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาใดๆ เลย ซึ่งอาจเป็นเพราะมัวแต่นึกถึงแต่ตัวเอง และนึกถึงเรื่องที่จะช่วยครอบครัวของตัวเองเท่านั้น ทั้งนี้ ก็ขอให้นางสาวยิ่งลักษณ์มองประเทศไทย มองนายกฯ ด้วยหัวใจที่ไม่มีอคติ เพราะจะได้เห็นเรื่องดีๆ กับเขาบ้าง

“นางสาวยิ่งลักษณ์คงลืมในอดีตไปแล้วว่า มีประชาชนหรือกลุ่ม กปปส.ที่ออกมาขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่ถูกสั่งการให้เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมจนบาดเจ็บล้มตายไปเท่าไร แต่รัฐบาลนี้ให้สิทธิการชุมนุมตามกฎหมาย ทั้งที่ผู้ชุมนุมพยายามก่อเหตุรุนแรง แต่เจ้าหน้าที่ก็ใช้ความอดทนยังไม่เคยสลายการชุมนุม ให้เกิดการล้มตายเหมือนรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ แม้แต่คนเดียว แต่การลิดรอนสิทธิที่น่ากลัวและน่าละอายใจที่สุดในโลก คือการลิดรอนสิทธิชาวนาที่มีรัฐมนตรีติดคุก แต่อดีตนายกฯ กลับหนีไปมีความสุขส่วนตัว เที่ยวช้อปปิ้ง ปาร์ตี้ดื่มไวน์อย่างมีความสุขอยู่ต่างประเทศ กับพี่ชายพี่สาว การลิดรอนสิทธิชาวนา ลิดรอนสิทธิพึงมีพึงได้ของเงินชาวนา โกงเงินชาวนาไปมากมาย จนชาวนาต้องผูกคอตายไปหลายราย อย่างนี้ทำไมไม่เรียกว่าการคุกคามหรือลิดรอนสิทธิคนหาเช้ากินค่ำ ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของชาติบ้าง ทำไมนางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ละอายต่อตัวเอง เกรงกลัวต่อบาปเลยสักนิด ทำไมจึงลืมการลิดรอนสิทธิกับผู้ชุมนุม กปปส. และชาวนาที่เคยทำไว้ในอดีตง่ายจังเลยครับ” นายสุภรณ์กล่าว