Categories
ข่าว

“ไพบูลย์” พอใจคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ส่งผลให้ร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านรัฐสภาวาระ 2 ต้องตกไป หากจะร่างใหม่ต้องทำประชามติถามประชาชน

จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากวินิจฉัยว่า รัฐสภามีหน้าที่และอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้โดยต้องให้ประชาชนผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญได้ลงประชามติเสียก่อนว่า ประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และเมื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว ต้องให้ประชาชนลงประชามติเห็นชอบหรือไม่ กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกครั้งหนึ่ง

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่เสนอให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญญาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ เปิดเผยกับ The Reporters ว่า พอใจมากกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ชัดเจน

ซึ่งส่วนตัวตีความว่า ผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มีผลทำให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ที่ผ่านวาระที่ 2 ของรัฐสภา ต้องตกไป และการพิจารณาในวาระที่ 3 ก็ตกไป เช่นกัน

“จะต้องทำประชามติก่อนที่จะมีการดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องถามตามที่ศาลรัฐธรรมนูญ เขียนไว้ว่าประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และต้องดำเนินการโดยรัฐสภา ที่จะมีหน้าที่จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่ใช่ตั้ง ส.ส.ร.”

นายไพบูลย์ เห็นว่า เมื่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญระบุเช่นนี้ การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญใน วาระ 1 และ วาระ 2 ของรัฐสภาก็ตกไป เพราะจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ โดยยังไม่มีประชามติ ถือว่าขัดกับรัฐธรรมนูญ

นายไพบูลย์ ระบุว่า หากจะทำประชามติ จะต้องให้กฏหมายประชามติผ่านรัฐสภาเสียก่อน ซึ่งจะมีการพิจารณาในวันที่ 17-18 มี.ค.นี้ เมื่อกฏหมายผ่านก็ต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ และถ้าจะต้องจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ก็ต้องมีมติจากที่ประชุมรัฐสภา ขอไปยังรัฐบาลให้จัดทำการออกเสียงประชามติ ต้องผ่านความเห็นชอบรัฐสภาเสียก่อน และการลงมติของรัฐสภา ก็จะมีได้ก็ต่อเมื่อมีการประชุมรัฐสภา ที่จะเปิดสมัยประชุมในวันที่ 22 พ.ค.นี้

“ตอนนี้ก็เหมือนเริ่มต้นใหม่ และเหมือนไม่เคยมีการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญมาก่อน เพราะต้องไปถามประชาชนก่อน และถ้าประชาชนเห็นชอบ ก็ต้องทำโดยรัฐสภา ไม่ใช่ ส.ส.ร. ส่วนตัวจึงมองว่า หากขั้นตอนนี้ทำได้ยาก เพราะต้องใช้งบประมาณเยอะ ก็ควรแก้แบบรายมาตรา ซึ่งทำได้เลยเพราะรัฐสภามีอำนาจหน้าที่พิจารณาแก้ไขได้”