Categories
ข่าว

คนไทยเหมือนกัน!! “บิ๊กตู่” ติงสื่อเสนอแต่ภาพ ตร.ทำร้ายประชาชน ลั่น! ถ้าระแวงสืบทอดอำนาจ ก็ไปแก้รัฐธรรมนูญให้ได้

วันที่ 22 มี.ค.64 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการเป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่า ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ มีการวางนโยบาย ยุทธศาสตร์ชาติ แก้ปัญหาปัญหาชายแดนภาคใต้ ปลูกฝังความรักความสามัคคี และต่อไปต้องทำแผนปฎิบัติที่สามารถทำได้จริง ในการสร้างความสงบสุข

ส่วนสถานการณ์การชุมนุม มีการประเมินตลอด บางกลุ่มก็มีความรุนแรง และบางกลุ่มก็ไม่รุนแรง มีการปรับเปลี่ยนแผนการรองรับตลอด รัฐบาลมองว่าจะทำอย่างไรให้ไม่รุนแรง ต้องดูแลคน 2 กลุ่ม ไม่ให้ปะทะกันเองด้วย เราก็ยังมองว่าผู้ชุมนุม เป็นประชาชนคนไทยเหมือนกัน ถ้าเราไม่ทำให้เกิดผลกระทบกันและกันก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น สื่อก็ต้องช่วยกัน การถ่ายรูป ถ่ายภาพต่างๆ

พล.อ. ประยุทธ์ เปิดเผยว่า ตนเองก็เป็นห่วงสื่อที่อยู่ในพื้นที่อยู่ใกล้การชุมนุม เวลาปฏิบัติก็อาจจะได้รับผลกระทบ ซึ่งภาพเหตุการณ์ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สอบสวนการใช้อาวุธปืนในที่การชุมนุม ยืนยันว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่แน่นอน แต่เป็นคนกลุ่มอื่น และใครได้รับผลกระทบจากการชุมนุมก็มีแผนดูแล ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ระมัดระวัง และ สื่ออย่าไปอยู่ใกล้ ระมัดระวังตัวหน่อย สื่อรู้อยู่แล้ว ว่าจะแรงตอนไหน ก็ต้องให้ตำรวจถ่ายไว้เยอะๆ ส่วนสื่อก็ขอให้ออกไปถ่ายข้างๆ

“เขาต้องทำงาน เขาก็ประกาศแล้วไม่ใช่หรือ ว่าต่อไปนี้จำเป็นต้องทำให้เหตุการณ์สงบ คุณไม่เห็นหรือว่าก่อนเขาจะทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกกระทำอะไรบ้าง คุณไม่เห็นหรือ ไม่เห็นหรือไง ถ้าไม่มีทำอะไรก่อน ตำรวจเขาจะทำไหม เขาเคลื่อนกำลังไปหาผู้ชุมนุมไหม ถ้าไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น ถ้าไม่ส่อเจตนาที่บานปลาย เขาก็ประกาศก่อน เขาประกาศก็ต้องหลบ ต้องถอยออกมา จะปล่อยให้ไปทั่วทุกพื้นที่หรืออย่างไร ทุกประเทศก็เป็นแบบนี้ ควบคุมพื้นที่ให้อยู่ในพื้นที่ที่กำหนด ชุมนุมก็ชุมนุมไปเถอะ ในพื้นที่ชุมนุมก็ว่าไป แต่การเคลื่อนย้ายไปโน่น ไปนี่ มันทำให้เกิดผลกระทบกับคนอื่น แล้วถ้ารัฐบาลไม่ทำ คนพวกนั้นเขาร้องเรียนขึ้นมา จะไม่ดูแล้วเขาหรือไง การใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมันไม่ถูกต้องนะ คุณก็ถ่ายรูปจากข้างเจ้าหน้าที่อย่างเดียว แล้วก็ลงหน้าหนึ่ง มันดีอะไรกับประเทศบ้าง ทำไมไม่มีรูปพวกนี้บ้าง การทำร้ายตำรวจ พวกนี้คุณรับได้ไหม แล้วตำรวจเริ่มต้นทำอะไรรุนแรงไหม เขาไปประคับประคอง พูดจาพูดคุย อย่าทำผิดกฎหมาย เขาพูดจนคอจนคอจะแตกแล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ก็ว่าไป รัฐบาลเสนอแล้ว ส่วนจะแก้ทั้งฉบับหรือรายมาตรา ไม่ขัดข้อง ก็ไปดูกฎหมาย ดูรัฐธรรมนูญ ไปสั่งใครไม่ได้ ทุกคนเขามีความคิด ความคิดดีๆ ก็มี คิดไม่ดีมันก็มี

“ระแวงผมอะไรต่างๆ จะสืบทอดอำนาจก็ไปแก้มาสิ จะเลือกผมไม่เลือกผม ก็ไม่ขัดข้อง ไม่เลือกก็ได้ ไปแก้มา แก้ให้ได้แล้วกัน” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว

ส่วนภาพถ่ายทหารไทยส่งอาหารให้ทหารเมียนมา พล.อ. ประยุทธ์ ระบุว่า ชายแดนไทยเมียนมาเป็นคนละกรณีกันกับเหตุการณ์การเมืองในเมียนมา ซึ่งตามแนวชายแดน มีการขอให้ลงไปจากพื้นที่ แต่ก็ขอให้มีการสั่งอาหารกันกับพ่อค้าคนกลาง จึงเป็นคนละกรณีกันกับทางการเมือง ที่ผ่านมาทางเมียนมายังไม่ขอความช่วยเหลืออะไร เพราะมีกฎของอาเซียน ที่ประเทศสมาชิกไม่แทรกแซงกันเรื่องภายในประเทศ

เมื่อถามว่าในทวิตเตอร์ มีคนโพสปลุกปั่นเจอลูกนายกรัฐมนตรีที่ไหนให้คุกคาม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่สมควรที่จะมายุ่งเกี่ยวกับลูกและครอบครัว พร้อมถามกลับผู้สื่อข่าว ถ้าเขามาทำร้ายลูกสาว คุณจะยอมไหม ยอมหรือไม่ ทั้งนี้ เตรียมให้ฝ่ายกฎหมาย หาช่องทางเอาผิดทางกฎหมาย เพราะเห็นว่าไม่สมควร อย่าฝืนกฎหมาย ลูกและครอบครัวไม่เคยทำให้ใครเสียหาย

ส่วนการปรับคณะรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า กำลังทำอยู่ แต่หากใครทำงานไม่ดี วันข้างหน้าก็ปรับใหม่ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญหากมีการแก้ไขรายมาตรการก็ทำได้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันไม่มีปัญหา จะแก้ทั้งฉบับ หรือรายมาตรการ ไม่จำเป็นต้องสั่งใคร ขอให้ไปดูกฎหมาย

ทั้งนี้ ก่อนลงมาแถลงข่าว ตัวแทนสื่อมวลชนได้มอบการ์ดอวยพรให้กับนายกรัฐมนตรี เนื่องในวันคล้ายวันเกิด 21 มีนาคม ที่ผ่านมา พล.อ. ประยุทธ์ ได้เปิดการ์ดวันเกิดที่มีเสียงเพลงอวยพร Happy Birthday ให้สื่อได้ฟัง พร้อมขอบคุณที่ทำงานร่วมกันมา และสัญญากับสื่อมวลชนว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แก้ไขปัญหาในบ้านให้ได้เร็วก่อน และก่อนเดินทางกลับนายกรัฐมนตรีก็ยกการ์ดอวยพรขึ้นมาและพูดว่า อวยพร ให้การ์ดแล้วก็ทำดีๆ กับผมด้วย