วันที่ 13 พ.ค.64 ตำรวจ สภ.นาดูน จ.มหาสารคาม ได้คุมตัวนายเอก (นามสมมุติ) อายุ 53 ปี มารับทราบข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี และพรากผู้เยาว์ โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ อ้างว่าพาเด็กเข้าไปในบ้านกระทำอนาจารหลายครั้งแต่ยังไม่ได้ข่มขืน ซึ่งตำรวจไม่ปักใจเชื่อและมั่นใจในพยานหลักฐานที่จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาช่วงบ่ายวันนี้ตำรวจได้คุมตัวนายเอกไปฝากขังต่อศาลแล้ว
สืบเนื่องจากวันที่ 11 พ.ค.64 นายดำ (นามสมมุติ) ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า ปกติตนจะทำงานรับจ้างอยู่ที่กรุงเทพฯ ก่อนจะรีบเดินทางกลับมาหาภรรยาและน้องแดง (นามสมมุติ) ลูกสาวอายุ 11 ปี ที่อาศัยอยู่กับแม่ยายในพื้นที่ อ.นาดูน จ.มหาสารคาม เพราะลูกสาวได้โทรศัพท์มาหาตนบอกว่า ถูกนายเอกที่อาศัยอยู่ข้างบ้านข่มขืนมาประมาณ 1 ปีแล้ว และถูกข่มขู่ไม่ให้บอกใคร มิฉะนั้นจะฆ่าทิ้ง ทำให้ลูกสาวไม่กล้าบอกแม่กับยาย เพราะกลัวว่าทั้งสองคนจะโวยวายและมีเรื่องกับนายเอกจึงตัดสินใจโทรศัพท์มาบอกพ่อเพราะลูกทนไม่ไหวแล้ว
นายดำ กล่าวอีกว่า ลูกสาวตนมีอาการหวาดกลัวอย่างมากและร้องไห้ตลอดเวลา โดยลูกสาวได้เล่าว่า ถูกนายเอกข่มขืนครั้งแรกช่วงปลายปี 62 ขณะกำลังเล่นซ่อนแอบกับเพื่อน ได้วิ่งเข้าไปหลบอยู่ข้างบ้านของนายเอก เมื่อนายเอกเห็นได้เรียกให้เข้าไปในบ้านและลงมือข่มขืน ต่อมานายเอกได้เรียกไปกระทำอีกหลายครั้งทั้งในบ้านของนายเอก และบริเวณหลังบ้านของยายที่อยู่ติดกัน โดยจะอาศัยช่วงที่ไม่มีใครอยู่ ซึ่งลูกสาวจำได้ว่าถูกกระทำมา 5 ครั้ง ครั้งสุดท้ายช่วงก่อนสงกรานต์ปี 63 จากนั้นนายเอกก็ไม่ได้กระทำอีก เนื่องจากลูกสาวพยายามไม่เข้าใกล้จะอยู่กับแม่และยายตลอด ทำให้นายเอกไม่สามารถเข้าใกล้เด็กได้ และลูกของตนต้องอยู่อย่างหวาดผวาสภาพจิตใจย่ำแย่ กลัวว่านายเอกจะมาข่มขืนอีก หัวอกพ่อเห็นลูกแล้วสงสารจับใจต้องการจะดำเนินคดีกับนายเอกให้ถึงที่สุด ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยให้ความเป็นธรรมด้วย
จากนั้น นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ จึงได้ประสาน พ.ต.อ.ดร.ณรงค์ ศรีวิเชียร ผกก.สภ.นาดูน โดยวันที่ 12 พ.ค.64 พ.ต.อ.ดร.ณรงค์ ได้นัดหมายให้นายดำพาลูกสาวเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ศักดิสิทธิ์ ศิริประภานนท์กุล รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.นาดูน ทันที จากนั้นตำรวจได้ส่งตัวน้องแดงไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล และนัดสอบสหวิชาชีพ กระทั่งมีการจับกุมและส่งฝากขังดังกล่าว
