Categories
ข่าว

ไม่ลาออกแล้ว!! พญ. ร่ำไห้ ขอโทษที่คิดน้อยไป พาญาติฉีดไฟเซอร์ เสียดายเป็นวัคซีนที่ทิ้งถังขยะ ไม่ได้แย่งด่านหน้า

จากกรณี พญ.รายหนึ่งที่ รพ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช พาญาติไปฉีดวัคซีนไฟเซอร์ โดยกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้อย่างละเอียด จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง และทาง นพ.จรัสพงษ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริง และพบว่าเป็นพี่สาวของ พญ.คนหนึ่ง ได้ฉีดฉีดไปแล้ว ส่วนแม่ยังไม่ได้ฉีด กระทั่ง พญ.คนดังกล่าวได้ยื่นใบลาออก ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันที่ 17 ส.ค.64 พญ.คนดังกล่าว อายุ 27 ปี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วัคซีนดังกล่าวเหลือก้นขวดที่ต้องทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ จึงคิดว่าน่าจะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์กว่าทิ้งถังขยะ หลังจากฉีดวัคซีนให้บุคลากรด่านหน้า รพ.นบพิตำ 66 คน และถามทีมฉีดวัคซีนว่า มีวัคซีนเหลือก้นขวดบ้างไหม ทีมฉีดวัคซีนก็ตอบว่า บางขวดก็เหลือบางขวดไม่เหลือ

ตนเลยถามว่า ขวดที่เหลือหมอขอได้ไหม เพื่อจะฉีดให้แม่กับพี่สาว จึงโทรไปหาพี่สาวให้ขับรถพาแม่มาด้วย โดยบอกว่ามีวัคซีนก้นขวดที่เขาทิ้งแล้วจะฉีดไหม พี่สาวบอกว่าเอา และด้วยความบริสุทธิ์ใจก็เอาวัคซีนก้นขวดที่เหลือที่ทิ้งถังขยะมาฉีดให้พี่สาว และทาง ผอ.รพ.ทราบจึงสั่งระงับ ทำให้แม่ไม่ได้ฉีด ซึ่งตามที่เป็นข่าวทางสื่อบางสังกัดว่า หมอเบียดบังเอาเอาวัคซีนโดสที่ 6 ฉีดให้แม่นั้นไม่เป็นความจริง

เมื่อพี่สาวมาถึง ตนจึงให้เข้าไปนั่งในจุดที่ฉีดวัคซีนด้วย ทุกคนก็นั่งอยู่ ตนไม่ได้เบียดบังไปแย่งใคร ยืนยันว่าวัคซีนที่ฉีดให้พี่สาวเป็นวัคซีนที่ทิ้งแล้ว เพราะคิดว่าอย่าทิ้งเลยมันเสียดาย หากไม่บริสุทธิ์ใจจริงๆ ตนก็บอกพยาบาลว่า หมอเอาไปฉีดให้พี่สาวเอง ฉีดที่ไหนก็ได้ไม่ให้ใครเห็น แต่ด้วยความที่บริสุทธ์ใจ และคิดน้อยไปจึงให้พยาบาลฉีดให้พี่สาวตรงนั้น จนทำให้คนบางคนที่ไม่เข้าใจ บอกว่าตนไปแย่งวัคซีนของบุคลากรด่านหน้ามาหรือเปล่า

มันเป็นวัคซีนที่เหลือก้นขวดทิ้งถังขยะแล้วจริงๆ ซึ่งบุคลากรด่านหน้าทั้ง 66 คนได้รับวัคซีนครบแล้ว ยอมรับว่าพาพี่สาวและแม่มาด้วย แต่แม่ไม่ได้ฉีด เพราะมีบุคลากรรายงานให้ ผอ.รพ.นบพิตำ ว่ามีการฉีดวัคซันไฟเซอร์ให้กับบุคคลภายนอก ซึ่งเขาก็ทำถูกต้องแล้ว จนทาง ผอ.รพ.สั่งระงับ ซึ่งตนทำงานสุ่มเสี่ยงมาโดยตลอด แต่ไม่สามารถเอาวัคซีนก้นขวดที่ทิ้งไปแล้วมาฉีดให้กับแม่กับพี่สาวได้เพื่อให้เขาปลอดภัย

พญ. กล่าวอีกว่า ตนทำงานที่ รพ.นบพิตำ คลุกคลีกับผู้ติดเชื้อแต่ต้องกลับไปนอนกับแม่กับพี่สาว เป็นคนเสี่ยงและเสียสละอยู่ด่านหน้า ไม่สามารถที่จะดูแลปกป้องคนในครอบครัวของตัวเองได้เลยหรือ ตนขอโทษประชาชนทุกคนจริงๆ ที่เห็นแก่ตัว มันเป็นเรื่องที่อ่อนไหว ตนน้อยใจ เสียใจที่เกิดเรื่องขึ้นจึงได้ตัดสินใจยื่นใบลาออก แต่กลับไปทบทวนตัวเองว่าสิ่งที่ทำมันถูกไหมที่ชิงลาออก ประกอบกับหมอที่ รพ.นบพิตำ มีน้อยมากเพราะเป็น รพ.ขนาดเล็ก หากตนออกไปอีกคนก็จะไม่มีคนที่จะช่วยงานในส่วนเหล่านี้ ล่าสุดได้ตัดสินใจกลับมา รพ.และไปเอาใบลาออกกลับคืนมา

“หมอจะสู้ต่อเพื่อคนนบพิตำ เพื่อคนไข้และจรรยาบรรณของหมอ แม้ว่าจะถูกโจมตีอย่างหนัก ต้องกราบขออภัยด้วย และยืนยันว่าหมอไม่ได้ไปแย่งวัคซีนของบุคลากรด่านหน้า เพราะทุกคนเป็นคนที่หมอรัก หมอรู้จัก เป็นเพื่อนร่วมงาน หมอไม่มีทางที่จะแย่งของเขามาอย่างแน่นอน หมอขอโทษที่คิดน้อยไป ที่ว่าการที่เราไปหยิบวัคซีนที่เขาทิ้งถังขยะมันอาจจะเป็นเรื่องที่ผิด ไม่ดี” พญ.กล่าวทั้งน้ำตา