วันที่ 2 ก.ย.64 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์ข้อความว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เซ็นคำสั่งปลดตัวเองออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่า ตนไม่ทราบ และไม่ได้ไปคุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเรื่องนี้ ซึ่งตนไปคุยธุระข้างนอกมาและยังไม่เห็นข่าวดังกล่าว ส่วนถ้าไม่ใช่เรื่องจริงจะดำเนินการเอาผิดนายมงคลกิตติ์ ที่ปล่อยข่าวออกมาหรือไม่นั้น เชื่อว่านายมงคลกิตติ์ คงไม่ได้ประสงค์ร้ายอะไรกับตน จะไปเอาผิดได้อย่างไร ต้องไปถามนายมงคลกิตติ์
ส่วนหลังแถลงข่าววานนี้ได้มีการพูดคุยกับพล.อ.ประยุทธ์ แล้วหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวย้ำว่าตนไม่ได้คุยกับพล.อ.ประยุทธ์ แต่พูดคุยกับพล.อ.ประวิตร ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรค และตอนกลางวันตนก็ยังไปกินข้าวกับพล.อ.ประวิตร มา
เมื่อถามว่าได้เคลียร์ปัญหาที่เป็นรอยร้าวเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนยืนยันว่า ได้พูดคุยกับพล.อ.ประวิตร และได้ตอบคำถามในการแถลงข่าวเมื่อวานชัดเจนหมดแล้ว
ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำมีการเชื่อมโยงคำพูดนายกฯ เรื่องแอบอ้างสถาบันว่าเป็นตนเองนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “อย่าถามเรื่องประเด็นนี้ การเมืองเราต้องแยกให้ชัดเจน การเมืองคือการเมือง อย่าดึงสถาบันเข้ามาเล่น”
หากนายมงคลกิตติ์ โพสต์เป็นเรื่องจริงจะทำอย่างไรต่อไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า คำตอบของตนเมื่อวานชัดเจนทุกเรื่องอยู่แล้ว เมื่อถามย้ำว่า คือการกลับไปเป็นส.ส.อย่างเดียวใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนมาจากประชาชน ส่วนการไปคุยกับหัวหน้าพรรคได้แนะนำหรือเตือนอะไรหรือไม่นั้น ตนยืนยันตามที่แถลงไปเมื่อวาน ไม่มีประเด็นอะไรใหม่เลย
ทั้งนี้หากที่นายมงคลกิตติ์ โพตส์เป็นความจริงคิดว่าตนเองได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราเข้าสู่เวทีการเมืองแล้ว อย่าไปคิดมาก ซึ่งในการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เราคือตัวแทนพี่น้องปวงชนชาวไทย ดังนั้นคุณจะทำอะไรก็ต้องคิดถึงผลประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองและประชาชนเป็นที่ตั้ง เสียงจากประชาชนคือเสียงสวรรค์ ตนคิดแค่นี้ แต่ชีวิตก็ไม่เคยคิดมาเล่นการเมือง
อย่างไรก็ตามเมื่อถามย้ำถึงการแอบอ้างสถาบัน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “นี่คุณถามอีกแล้ว อย่าเอาเรื่องสถาบันมายุ่งกับการเมือง” และเมื่อถามย้ำว่า กระแสข่าวที่ออกมาวันนี้มองว่ารุนแรงกับตัวเองหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนผ่านความเป็นความตายมามากพอแล้วในชีวิต ดังนั้นหนทางที่ก้าวไปข้างหน้า มันจะมีหลุมมีบ่อมีเหว เราก็ต้องเตรียมพร้อม
ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาจะส่งผลต่อการโหวตไม่ไว้วางใจในวันที่ 4 ก.ย.นี้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ ซึ่งเป็นสิทธิส่วนบุคคลของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เราไม่วามารถไปบังคับได้ ร.อ ธรรมนัส ยังตอบคำถามหากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงแสดงว่ามีปัญหากับนายกฯ หรือไม่ ตอบว่า ก็มีแต่กระแสข่าว ตนยังไม่ได้คุยกับนายกรัฐมนตรี
ส่วนในฐานะเลขาฯพรรค ยืนยันว่าจะรวบรวมเสียงสนับสนุนนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ตนพูดเสมอว่า ทุกอย่างอยู่ที่หัวหน้าพรรคจะให้นโยบายอย่างไร ซึ่งทุกอย่างอยู่ที่เอกสิทธิ์และสิทธิของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแต่ละคนว่าจะตัดสินใจอย่างไร ครอบงำไม่ได้ ตนเชื่อว่าส.ส.ทุกคน กว่าจะมาเป็นส.ส. ผ่านอะไรมาเยอะ มีทั้งองค์ความรู้และประสบการณ์ชีวิต วิถีชีวิตของการเป็นนักการเมือง ประชาชนจะเลือกคุณหรือไม่เลือกคุณในสมัยเลือกตั้งครั้งหน้า อยู่ที่พฤติกรรมของคุณ ว่าทำงานดูแลประชาชนหรือไม่ ส่วนปัญหานี้จะทำให้ถอดใจลาออกจากรัฐมนตรีหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนพูดเสมอว่าไม่ยึดติดกับตำแหน่งหน้าที่