วันที่ 6 ม.ค. 2563 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการบริหารจัดการน้ำในช่วงหน้าแล้ง โดยได้แจ้งล่วงหน้าไปแล้วกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะดำเนินการกับน้ำบนดินและน้ำใต้ดินมาดูแลเกี่ยวกับการอุปโภคบริโภค พร้อมยอมรับว่าน้ำในทางการเกษตรมีไม่เพียงพอ ทำนาปรังไม่ได้ เนื่องจากน้ำปีนี้น้อยมาก และตอนนี้พยายามขุดบ่อน้ำบาดาลทั่วประเทศกว่า 500 บ่อ โดยในพื้นที่ กทม. หากมีการขุดบ่อบาดาลจะไม่ทำให้พื้นดินทรุด ซึ่งมีการเตรียมการมาแล้ว
ยืนยันว่าน้ำสำหรับบริโภคบริโภคจะมีพอใช้ไปถึงเดือนกรกฎาคม โดยจะใช้งบฉุกเฉินประมาณ 3,000 ล้านบาท แก้ปัญหาภัยแล้ง ซึ่งพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงคือภาคเหนือและภาคอีสาน ส่วนการผลักดันน้ำเค็มยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ลำบากและมีปัญหากระทบกับน้ำประปา แต่ส่วนอื่นยังพออยู่ได้และเราไม่มีน้ำในการที่จะไปไล่น้ำเค็ม
ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบหมายให้เข้ามารับผิดชอบงานด้านการทำประมงผิดกฎหมายแทน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่า ดูแลมาตั้งแต่ 4 ปีก่อนแล้ว จนทำให้ได้ใบเขียวปลอดการประมงผิดกฎหมาย IUU แต่ขณะนี้ทางสหภาพยุโรปมีปัญหาการประมงของไทยจึงอยากให้เปลี่ยนกลับมาดูแลต่อ เพราะหากกลับมาได้ใบเหลืองจะเดือดร้อนและต้องระมัดระวังไม่ให้ซ้ำรอยกับสาธารณรัฐปานามา ที่ได้ใบเขียวเพียง 8 เดือนเท่านั้น พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่าไม่เกิดความขัดแย้งขึ้นภายในรัฐบาล
ทั้งนี้ จะต้องมีการปรับระเบียบต่างๆ การทำประมงและไม่ให้เกิดการกระทำผิดทางกฎหมาย พร้อมกล่าวว่า การทำประมงพื้นบ้านกว่า 5 หมื่นลำ ไม่มีปัญหาอะไร ที่เกิดปัญหาอยู่ขณะนี้คือประมงพาณิชย์.