วันที่ 12 ม.ค.63 ภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรม นายธนวัฒน์ วงค์ไชย แกนนำกลุ่มวิ่งไล่ลุง ได้แถลงจุดยืนว่า การที่ประชาชนมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า ประชาชนยังมีพลังเสมอเมื่อออกวิ่ง แม้จะถูกข่มขู่คุกคามตลอดการจัดงาน แต่ยืนยันว่า ไม่หวั่นไหว เพราะต้องการแสดงให้เห็นว่าไม่ไหวกับระบอบการเมืองแบบเดิมๆ
โดยคำว่า ลุง แทนสิ่งที่เผชิญหน้ามาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา และการวิ่งครั้งนี้ไม่ใช่แค่วิ่งไล่ลุง แต่เป็นการวิ่งไล่รัฐบาลที่บริหารเศรษฐกิจไม่เป็น วิ่งไล่ความเหลื่อมล้ำ รวมถึงวิ่งไล่ความอยุติธรรม และขอให้ผู้มีอำนาจรู้ไว้ว่า วันนี้เป็นวันแรกและหลังจากนี้จะวิ่งทุกวันตลอดทั้งปี เพื่อไล่ให้ลุงออกไปให้ได้ โดยได้นัดหมายอีกครั้งวันที่ 2 ก.พ.ที่จังหวัดเชียงใหม่
ขณะที่ น.ส. พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มีหนังสือถึงประธานสภาฯ ขอตัว 3 ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ประกอบด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค น.ส. พรรณิการ์ และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กรรมการบริหารพรรค เพื่อไปสอบปากคำว่า เราได้รับเอกสารเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องเอกสิทธิ์คุ้มครองนั้นให้เป็นดุลยพินิจของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์อยู่แล้ว โดยต้องให้สมาชิกสภาฯ โหวตว่าจะส่งตัวหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เราไม่มีความเห็นอะไร ขอให้เป็นไปตามขั้นตอน
อย่างไรก็ตามหากปิดสมัยประชุมพวกตนจะไปรายงานตัวอย่างแน่นอน แต่ต่อให้ไม่ปิดสมัยประชุมหากเพื่อนสมาชิกเห็นว่าจะให้ส่งตัวพวกเราไปก่อนจะปิดสมัยประชุม เราก็พร้อมที่จะไป ไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนการเตรียมความพร้อมในคดียุบพรรคอนาคตใหม่ น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า เราคงไม่ต้องเตรียมการอะไร ก็แค่รอฟังคำพิพากษา ซึ่งพรรคเราพูดเสมอว่าหารยุบพรรคไม่สามารถยุบเสียงกว่า 6 ล้านเสียงที่เลือกเรา และสนับสนุนเราได้ พรรคการเมืองความจริงแล้วไม่มีใครสามารถยุบได้ เพราะเป็นเรื่องของบุคคลและอุดมการณ์
เมื่อถามถึงกรณีการขับงูเห่า 4 คนออกจากพรรค น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า เป็นกระบวนการและขั้นตอนที่ทางพรรคจะต้องดำเนินการ เมื่อกรรมการบริหารพรรคมีมติเรียบร้อยก็จะต้องดำเนินการต่อไป ส่วนที่สมาชิกที่ถูกขับบอกว่ายังไม่ได้รับหนังสือขับออกจากพรรคนั้น ส่วนนี้เป็นขั้นตอนทางธุรการ ตอนนี้คงแค่รอหนังสืออย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องดึงเวลา เพราะต่อให้ไม่มีการขับออกจากพรรค ส.ส. ทั้ง 4 เสียงก็ไม่ได้อยู่กับเราอยู่แล้ว.
