วันที่ 14 ก.พ.65 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงรายงานข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้ช่วย โดยมีคำพูดที่ว่า “หนูช่วยหน่อยนะ” ว่า นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามว่า “พี่พูดกับหนูเมื่อไหร่” ตนตอบไปว่าจำไม่ได้ และเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วหากนายกรัฐมนตรีบอกว่าให้ช่วยหน่อยนะ ก็ช่วยกันทำงานอยู่แล้วเพราะเป็นหน้าที่ และเป็นรัฐมนตรีด้วยกัน แต่การพูดของนายกรัฐมนตรีไม่ได้เฉพาะเจาะจงที่ตน แต่พูดในลักษณะให้ช่วยกันทำงาน ทำให้ทุกอย่างเกิดความเรียบร้อย ส่วนการอ้างเสียง สส.ในมือ 260 เสียงนั้น นายอนุทิน บอกว่า ไม่รู้มาจากไหน แต่จะพยายามทำให้มีเสถียรภาพมากที่สุด
นายอนุทิน ยังยืนยันว่าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยไม่ลงมติ พรรคภูมิใจไทยจะช่วยดูแลนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันก็ต้องสนับสนุนนายกรัฐมนตรีเต็มประตู และนายกรัฐมนตรียังไม่เคยทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ผิดไปจากนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา ทุกอย่างเป็นไปตามทำนองคลองธรรม ทำเพื่อประโยชน์ประเทศประชาชน
ส่วนพรุ่งนี้ ถ้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว พรรคภูมิใจไทยจะสนับสนุนนายกรัฐมนตรีต่อหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ให้มันเกิดขึ้นก่อน มีเหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นการนำเข้า ครม. เพื่อพิจารณา แต่สำหรับวันพรุ่งนี้ยังไม่เห็นวาระ ขอไปดูก่อน สำหรับผลการพิจารณา ครม. จะเป็นอย่างไร พรรคภูมิใจไทยยังพร้อมสนับสนุนรัฐบาลต่อไปหรือไม่นั้น ก็ต้องดูว่าเรื่องจะเข้า ครม. ในรูปแบบใด เราจะพูดในสิ่งที่มันยังไม่เกิดไม่ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องของกระทรวงคมนาคมต้องให้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำรายละเอียดมาชี้แจง ไม่เกี่ยวกับท่าทีในสภา เพราะคนที่อนุมัติคือ ครม. ซึ่งต้องรอดู เพราะอาจยังไม่มีข้อสรุปก็ได้ เพราะทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ต่างก็มีเหตุผล และไม่ใช่ความขัดแย้งของพรรคร่วมรัฐบาล เป็นเพียงความเห็นที่ไม่ตรงกันของ 2 กระทรวง ไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างพรรค ก กับ พรรค ข เป็นเรื่องการทำงาน ไม่เกี่ยวการเมือง
นายอนุทิน ยังเลี่ยงที่จะตอบว่า หากไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์พรรคภูมิใจไทย จะถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลหรือไม่ แต่ย้ำว่าพรรคภูมิใจไทยยึดผลประโยชน์ของประชาชนและบ้านเมืองเป็นหลัก พร้อมย้ำเมื่อมีความเห็นต่างกันของ 2 กระทรวง ก็ต้องหาจุดลงตัวตนได้ ถ้าไม่ได้นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานก็ต้องให้มติ ผลเป็นอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตาม เรื่องนี้ไม่ใช่พรรคภูมิใจไทยขัดแย้งกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นโควตานายกรัฐมนตรี ได้เป็นสมาชิกพรรคจึงเป็นเรื่องการทำงาน ที่ไม่ใช่พรรคการเมือง อย่าไปผูกรวมกัน เราช่วยกันปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศ มีความเห็นต่างได้ ซึ่งต้องหาจุดลงตัวจนได้ นายอนุทินย้ำว่า “มาด้วยกันก็ต้องไปด้วยกัน ช่วยกันทำงาน ถึงเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น” ก่อนที่นายอนุทินอวยพรสื่อว่า “แฮปปีวาเลนไทน์”