โลกออนไลน์มีการแชร์ภาพป้าย ที่มีหน้าหมอปลา หรือ นายจีรพันธ์ เพชรขาว พร้อมข้อความระบุว่า ร่วมปลุกกระแส ห้ามหมอปลาเข้าสร้างความวุ่นวายในเขตวัด ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย ใช้อำอาจอะไร แค่อ้างว่ามีคนร้องเรียน ก็บุกเข้าค้นวัดได้ทุกซอกทุกมุม โดยไม่ต้องมีหมายค้น
“ถ้าแน่จริง มีคนแจ้งว่า บ้านนี้ค้ายา บ้านนั้นค้าของเถื่อน บ้านนี้ให้ที่หลบซ่อนมือปืน กล้าเข้าค้นเหมือนเข้าค้นวัดมั้ย”
วัดเป็นนิติบุคคล เจ้าอาวาสเป็นเจ้าพนักงาน ทุกวัดควรขึ้นป้ายต่อต้านหมอปลา ฝ่าฝืนเข้าไปทำแบบที่เคยทำให้วัดไหน ให้ฟ้องศาลทุกวัด ผิด ถูกไปว่ากันที่ศาล ไม่เช่นนั้น หมอปลาจะย่ำยีพระตลอดไป กล้าไปทุกวัด ก็ต้องกล้าไปขึ้นศาลทุกคดีนะ หมอปลา
ทั้งนี้ มีผู้ใช้เฟซบุ๊กเข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่สนับสนุนหมอปลา ให้ช่วยตรวจสอบความถูกต้องของวัด และพระที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
ทีมข่าวสัมภาษณ์หมอปลา ยืนยันว่าตอนนี้มีคนส่งภาพมาให้ดูแล้ว สงสัยเหมือนกันว่าทำไมวัดถึงขึ้นป้ายแบบนี้ ทั้งที่ผ่านมาก็มีเจตนาดีต่อพระพุทธศาสนามาตลอด ส่วนตัวไม่อาย เพราะรู้ตลอดว่าสิ่งที่ทำคืออะไร มันมีผลประโยชน์มหาศาล ผมเคยพูดว่าเราเอาเงินในวัดที่มันมีอยู่ โดยที่ไม่ได้เกิดประโยชน์ จะเป็นของเจ้าอาวาส หรือของพระผู้ใหญ่ เอามาใช้ทั้งประเทศไทยยังได้เลย ทั้งๆที่พระพุทธเจ้าก็สอนว่า พระสงฆ์บวชเพื่อสะสางกิเลส ไม่ใช่สะสมกิเลส แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันผิดเพี้ยน
ผมก็เพิ่งไปสนทนาธรรมกับพระพยอมว่า พระที่ดูดวง พระที่ทำพิธีแก้กรรมพวกนี้ ทำไมพระผู้ใหญ่ ยังให้ทำอยู่ทั้งที่ไม่ใช่กิจของสงฆ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัว ผมคิดว่าคนที่ขึ้นป้ายวัดนี้ ต้องมีอะไรที่น่าสงสัย ที่ขึ้นป้ายขนาดนี้ และเมื่อมันสงสัย หมอปลาก็เหมือนหมา ต้องขุดต้องคุ้ย ต้องหาเหยื่อให้ได้ หมาเวลาไปเจอหนูมีอะไรลงรู ก็ต้องขุดคุ้ยจนได้ หมอปลาก็เหมือนหมา มันได้กลิ่น ก็ทุกวัดที่เราลงพื้นที่
อย่างวันนี้ (3 พฤษภาคม 2565) ล่าสุด ก็คือพระข่มขืนกระทำชำเรา เราก็ลงพื้นที่ตรวจสอบ คุณจะกลัวอะไรถ้าคุณไม่ได้ผิดกัน กลิ่นมันเข้าจมูกหมา ให้เรียกหมาปลา ไม่ใช่หมอปลา
หมอปลาย้ำว่าสงสัยว่าสิ่งที่ทำที่ผ่านมา ปกป้องพระพุทธศาสนา พระดีดีเราก็ไปกราบ ล่าสุดไปกราบพระพยอมมา ถ้าคุณเป็นพระที่ดีจริง คุณจะกลัวอะไรกับหมอปลา แต่ถ้าคุณเป็นพระนอกรีด เป็นอลัชชี ห่มเหลืองหากิน ผมสงสัยเหมือนกันว่าเป็นพระอะไร
เชื่อว่าหลังจากนี้วัดอาจจะอ้างว่าไม่รู้เรื่อง ลูกศิษย์เอามาติด แล้ววัดใคร ใครมีสิทธิ์ให้ติด ก็ภาวนาว่า อย่าปลดป้ายออก ถ้าเก่งจริง อันนี้ไม่ได้นักเลง ตอนนี้ตั้งใจได้ลองคิดกับภรรยาและป้ารัตนาว่าจะไปเยี่ยมวัดที่ขึ้นป้าย จะไปทำบุญ ส่วนจะไปวันไหนยังกำหนดไปไม่ได้ เพราะตอนนี้ยังอยู่ที่ภาคอีสาน และตอนนี้ต้องหาเงินบริจาคก่อน เพื่อไปทำบุญ
ขณะที่ วันที่ 4 พ.ค.65 เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ผู้ที่ใช้เส้นทางผ่านบริเวณ หน้าวัดใหม่พรหมพิราม ตำบลพรหมพิราม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก จะพบเห็นป้ายมีรูปหมอปลาและมีข้อความห้ามหมอปลาเข้าวัดติดอยู่บริเวณโครงเหล็กป้ายประชาสัมพันธ์ริมรั้ววัด
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 05.30 น.พระครูธีรศาสตร์กิจจาธร เจ้าอาวาสวัดใหม่พรหมพิราม พร้อมด้วยพระลูกวัด ได้นำเอาบันไดไม้และคีมเหล็กมาถอดรื้อป้ายดังกล่าวออก
พระครูธีรศาสตร์กิจจาธร บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองทราบเรื่องนี้ในเวลาประมาณสามทุ่มของค่ำคืนที่ผ่านมา เพราะพระครูสิริธรรมานุสน เจ้าคณะอำเภอพรหมพิราม วัดมะต้อง โทรศัพท์มาบอกว่า มีการโพสต์ภาพและแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมากในเฟซบุ๊ก จึงรับปากกับทางเจ้าคณะอำเภอว่า จะนำออกในช่วงเช้าวันนี้
ซึ่งพระในวัดไม่มีใครทราบเรื่องและไม่รู้ว่าใครนำมาติดจั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะพระในวัดมัวแต่ทำงานสร้างกุฏิอยู่ด้านใน และช่วงนี้ที่วัดมีงานศพด้วยจึงไม่ได้ออกไปไหน ส่วนข้อความที่ปรากฏนี้ เจ้าอาวาสไม่ขอแสดงความคิดเห็นเพราะไม่ได้ติดตามเรื่องนี้มาก่อน