Categories
ข่าว

เอาอีกแล้ว!! “วิษณุ” ยันโทษคดีเสียบบัตรแทนกันในอดีต จะเอามาเป็นบรรทัดฐานในปัจจุบันไม่ได้

จากกรณี สส.ฝ่ายรัฐบาล 90 คนและ สส.ฝ่ายค้าน 84 คน ลงชื่อ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างงบประมาณปี 63 เป็นโมฆะหรือไม่ กรณีมีการเสียบบัตรแทนกัน และอาจทำให้การประกาศใช้ พ.ร.บ.งบฯ ล่าช้าออกไป

ล่าสุดช่วงบ่ายวันที่ 22 ม.ค.63  นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นถึงเรื่องนี้ว่า ขอให้แยกออกเป็นสองเรื่อง คือ หนึ่ง ต้องไปดูกันว่า การแสดงตนหรือการใช้สิทธิของ สส. ในการลงมติ ได้ทำถูกต้องหรือไม่ หรือมีการเสียบบัตรแทนกันหรือไม่ สอง ผลจากการนี้จะกระทบต่อร่างพระราชบัญญัติงบประมาณดังกล่าวอย่างไร แม้จะเกี่ยวกันแต่ก็ต้องแยกกันเป็นคนละประเด็น เพราะความผิดต่างกัน โทษต่างกัน ผลกระทบต่างกัน ในกรณีของการกระทำนั้นจะเป็นความผิดหรือไม่ อยู่ที่ทางสภาเป็นผู้ตรวจสอบ ในเบื้องต้นทราบว่าประธานสภามอบหมายให้เลขาธิการสภาไปดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและได้ทราบผลมาในระดับหนึ่งแล้ว

ข้อเท็จจริงได้มีปรากฏออกมาในข่าวของสื่อ ที่ว่ามีการเสียบบัตรคาทิ้งไว้ โดยที่เจ้าของบัตรไม่ได้มอบหมายหรือวานให้ใครกดแทน ตรงนี้จริงหรือไม่ก็ยังไม่ทราบ ขณะเดียวกันก็มีปัญหาว่า เมื่อมีการเสียบบัตรทิ้งไว้ เจ้าหน้าที่ของสภาได้เดินตรวจตราแล้ว เก็บกลับออกมาตามวิธีปกติหรือไม่ หากเจ้าหน้าที่ระบุว่าเก็บแล้ว เหตุใดจึงยังมีบัตรเสียบคาไว้อยู่ แสดงให้เห็นว่าอาจจะมีบุคคลอื่นนำบัตรไปเสียบลงคะแนนให้ในทีหลัง แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ได้เก็บ บัตรดังกล่าวยังเสียบคาไว้ที่เครื่อง และถ้าไม่มีใครนำไปกดรหัสสัญญาณจากตรงนั้น จะปรากฏออกมาได้อย่างไร เรื่องดังกล่าวต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนจะเกิดผลกระทบอย่างไรนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงตรงนั้นเป็นสำคัญ

อย่างไรก็ตามเคยมีคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ใน 2 เรื่อง เรื่องแรกเมื่อปี 2556 อีกเรื่องหนึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี 2557 โดยเรื่องแรกมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่15-16-17-18/2556 เรื่อง คราวที่มีการขอแก้ไขและธรรมนูญ ซึ่งในครั้งนั้นมีการกล่าวหาหลายเรื่อง รวมถึงที่มีการลงมติและมีการเสียบบัตรแทนกัน และมีการวิจารณ์เนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยในครั้งนั้นว่าขัดรัฐธรรมนูญทุกเรื่อง ส่วนเรื่องของการเสียบบัตรแทนกันในครั้งนั้น นายนริศร ทองธิราช อดีต สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย นำบัตรลงคะแนนของ สส. คนอื่นประมาณ 4-5 คน ไปเดินเสียบลงคะแนน จึงถูก น.ส.รังสิมา รอดรัศมี สส. สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ถ่ายคลิปวิดีโอไว้ แล้วถูกนำไปเปิดแฉในชั้นศาล

ทำให้ศาลเชื่อได้ว่ามีการเสียบบัตรแทนกันจริง ศาลจึงใช้หลัก 3 ข้อมาวินิจฉัย นายวิษณุกล่าวว่า คือ 1. สส. หนึ่งคนมีสิทธิลงคะแนนหนึ่งเสียง แต่เมื่อนำบัตรของคนอื่นไปเสียบแทนก็แสดงว่าบุคคลนั้นใช้สิทธิเกินหนึ่งเสียง ซึ่งถือเป็นความผิด 2. สส. ได้มีการปฏิญาณตนแล้วว่า จะต้องทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แต่เมื่อปฏิบัติงานออกมาแบบนี้ ก็ถือว่าไม่ซื่อสัตย์สุจริต 3. สมาชิกสภา จะต้องมีความเป็นอิสระ ไม่อยู่ในอาณัติของใคร ดังนั้นการที่ สส. นำบัตรไปให้ใครเสียบลงคะแนนแทน แล้วบุคคลนั้นนำไปเสียบแทนก็ถือเป็นการครอบงำบุคคลอื่น