เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 ก.พ. ที่ศูนย์ชุมชนโครงการเคหะร่มเกล้า 2 เขตลาดกระบัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานเปิดงาน“บ้านของเรา ก้าวไปด้วยกัน” พร้อมส่งมอบสัญญาเช่าให้กับผู้ที่ได้รับสิทธิ์เช่าโครงการเคหะร่มเกล้า 2 และโครงการเคหะลาดกระบัง 2 จำนวน 50 คน โดยมี นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมเป็นสักขีพยาน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า เห็นรอยยิ้มและเห็นใบหน้าทุกคนมีความสุขตนก็มีความสุข ตนคิดเรื่องนี้มาตลอดตั้งแต่มาทำงานและเข้ามาทำหน้าที่ว่าทำอย่างไรให้ทุกคนมีความสุขมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องปัจจัยพื้นฐาน ทั้งบ้าน อาชีพ รายได้ และโครงสร้างพื้นฐานให้เข้าสู่การดูแลของรัฐ ซึ่งต้องใช้เวลา จึงมีแผนยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูป แต่ต้องเห็นใจรัฐบาลด้วยเพราะวันนี้ยังมีปัญหาหลายอย่าง แต่ต้องทำให้ทุกคนเท่าเทียมกัน ซึ่งประชาธิปไตยที่ถูกต้องต้องเป็นแบบนี้
“ตั้งแต่เข้ามาเห็นรอยยิ้มมาตลอด ไม่เห็นใครหน้าบึ้ง หรือคงไม่แสดงให้เห็น แต่อย่าโกรธ อย่าเกลียด อย่าโมโหผมเลย ผมกำลังทำทุกอย่างให้ทุกคนในประเทศนี้ รวมทั้งรัฐมนตรีทุกคนก็ช่วยกันทำงาน คนดียังมีอีกเยอะ ส่วนคนไม่ดีก็ต้องขจัดออกไปซึ่งมีกฎหมายทุกตัว เชื่อว่าหากพูดจาหารือกันจะหาทางออกได้ทุกเรื่อง ดีกว่าทะเลาะเบาะแว้งกัน บ้านเมืองไม่ได้อะไรขึ้นมา”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าหากเราไม่ตั้งเป้าหมายก็จะไม่เห็นว่าแต่ละปีจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง จึงต้องมียุทธศาสตร์ชาติ เพื่อวางแผนไม่ให้ใช้เงินเกินตัว วันนี้ยังไม่ได้ทำอะไรเกินเลยสักอย่าง แต่มีผลงานให้ประชาชนสัมผัสได้ สิ่งที่ตนและรัฐบาลนี้ทำ เป็นการทำเพื่ออนาคต ไม่ใช่เพื่อปัจจุบันอย่างเดียว จึงต้องวางเป้าหมายทุกเรื่อง และบริหารจัดการทุกอย่างให้ต่อเนื่อง ทั้งที่อยู่อาศัย สิ่งแวดล้อม ขยะ และเรื่องอื่นๆ สิ่งเหล่านี้ทุกอย่างมีผลทำให้ทุกคนหลับสบาย ฝันดี และไม่ต้องไปปวดหัวกับข่าวสารที่ทำให้รกสมอง
“วันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา นายกฯ นอนหลับสบาย ไม่ต้องอ่านไม่ต้องดูอะไรทั้งสิ้น ใครจะว่า ใครจะชมก็เฉยๆ นั่งพักผ่อน อ่านเอกสาร เพราะแค่อ่านเอกสารก็ปวดหัวพออยู่แล้วในแต่ละวัน ถ้าต้องมาอ่านเรื่องไอ้พวกนี้อีก ไม่ไหว สุขภาพจิตเสียหมด มันมีคนพยายามทำอยู่เรื่องพวกนี้” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เห็นทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส ทำให้มีกำลังใจทำงานให้พวกเราต่อไป ไม่ใช่เฉพาะที่นี่ แต่เป็นทุกที่ที่เป็นประเทศไทย ตนไม่เคยละเว้นพื้นที่ จึงเป็นสิ่งที่ยาก สิ่งสำคัญทุกคนต้องรู้รักสามัคคี คนบ้านใกล้กันต้องรักกัน อย่าทะเลาะกัน สงสารตำรวจเหนื่อย ทุกคนต้องอยู่ด้วยกันให้ได้ เพราะนี่คือประชาชนคนไทย
เราเคยมีนิสัยน่ารักแต่ไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นทำให้ความขัดแย้งมาก แต่ย้ำว่ากฎหมายก็คือกฎหมาย เราไม่สามารถก้าวล่วงได้ แต่วันนี้กลับมีการวิเคราะห์กันมากเกินไป ขอให้เป็นหน้าที่ของศาลและกระบวนการยุติธรรม ใครมีปัญหาฟ้องร้องตามกฎหมาย หากไม่มีเงินสู้คดีก็มีกองทุนยุติธรรม หลายอย่างรัฐบาลนี้ทำ
นายกฯกล่าวว่า ขณะเดียวกันรัฐบาลก็เดินหน้าแก้ปัญหาหนี้สินให้กับประชาชน ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้น อยากให้พูดในสิ่งดีๆ สิ่งที่ไม่ใช่ ไม่จริง ไม่มีข้อมูล พูดไปเรื่อยเปื่อย ตนจำเป็นต้องชี้แจงว่ารัฐบาลทำอะไรไปแล้วบ้าง หลังจบงานนี้มีแขกต่างประเทศรอเข้าพบ ซึ่งมีคนบอกไม่มีใครอยากคบกับตน แต่มีแขกต่างประเทศมาหาทุกวัน พร้อมชื่นชมตนและรัฐบาลมาตลอด จึงไม่รู้ไปว่าเอาจากไหนที่บอกว่าไม่มีคนอยากคบตนแล้ว