Categories
ข่าว

ผมจะไปทลายเอง!! “ธรรมนัส” ลั่น!ฟันไม่เลี้ยง หากทีมงานเกี่ยวข้อง กักตุนหน้ากากอนามัย

จากกรณี มีชายคนหนึ่งถูกระบุว่ากักตันหน้ากากอนามัย ส่งขายนายทุนจีน และโชว์ว่ามีความสนิทสนมทีมรัฐมนตรีคนหนึ่ง โดยพบว่ามีภาพและคลิปโชว์กล่องหน้ากากอนามัยจำนวนมาก ที่ระบุมีหน้ากากหลายล้านชิ้น ส่งขาย โดยบอกว่า มีเยอะ ไม่ต้องห่วง ใครอยากได้ขอให้มีเงินมาเลย พร้อมกับระบุราคาว่า ชิ้นละ 14 บาท ซึ่งชายคนดังกล่าวได้โพสต์ขอโทษพี่เทพ ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดรัฐมนตรีท่านหนึ่งในรัฐบาล ว่า ลงรูปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก่อนที่จะปิดเฟซบุ๊กไป

ต่อมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า นายศรสุวีร์ ภู่รวีร์รัศวัชรี ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ ส่วนนายพิตตินันท์ รักเอียด ซึ่งเป็นคณะทำงานของตน ยืนยันว่าไปพบกับนายศรสุวีร์ตามคำแนะนำของเพื่อน เพื่อพูดคุยเรื่องหน้ากากอนามัยจริง โดยได้ไปพบกันที่โรงแรมแมริออท (ประตูน้ำ) กทม.แต่ไม่ได้มีการซื้อขายหน้ากากอนามัย และไม่เคยรู้จักกันกับนายศรสุวีร์มาก่อนโดยเป็นการพบกันครั้งแรก

เมื่อเวลา 10.15 น.วันที่ 9 มี.ค.63 ที่รัฐสภา ร.อ.ธรรมนัส ได้แถลงข่าวว่า ประเด็นแรก นายศรสุวีร์ นั้นขอชี้แจงว่า ไม่เคยรู้จัก หรือ ติดต่อคนผู้นี้ ไม่เคยเกี่ยวข้องใดๆ กับธุรกิจของนายศรสุวีร์ ส่วนนายพิตตินันท์ รักเอียด ไม่ได้สอบถามโดยตรงเพราะไม่มีเบอร์ติดต่อ แต่ให้ทีมงานที่เสนอชื่อให้เป็นคณะทำงานติดต่อไป โดยนายพิตตินันท์ เป็นอดีตผู้สมัครผู้แทนราษฎรเขต 6 สุราษฎร์ธานี เนื่องจากพบว่า ได้คะแนนดี แต่ไม่ได้ชนะการเลือกตั้ง เลยให้ดูแลฐานเสียง จ.สุราษฎร์ธานีต่อ ซึ่งตนมีทีมงานลักษณะดังกล่าว 30 คน

โดยจากการสอบถาม พบว่า นายพิตตินันท์ ได้พบ นายศรสุวีร์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน กทม. ด้วยเหตุผลว่า จะเอาหน้ากากไปแจกในพื้นที่ แต่ข้อเท็จจริง ไม่ได้มีการซื้อขายกัน โดยให้นายพิตตินันท์ ได้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับวงจรอุบาท์นี้ และได้แจ้งความนายศรสุวีร์ ที่สภ.สุราษฎร์ธานี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ยืนยันว่า ผมไม่มีความเกี่ยวข้องกับการขายหน้ากาก โดยได้ประสาน สภ.หนองปรือแล้วให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้ามีการกักตุนจริงผมจะไปทลายเอง และตอนนี้ผมให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ นายพิตตินันท์ หากเกี่ยวข้องกับการค้าขาย กักตุน ผมจะไม่เลี้ยงเลยคนพวกนี้ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าเขาไม่ได้มีหน้ากากจริงน่าจะเป็นพวกอยากดัง โดยประเด็นนี้เป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ อยากให้นำเสนอข่าวโดยตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน คนที่ลงข่าวบิดเบือนไปได้ให้ฝ่ายกฎหมายดูแลและร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว ซึ่งพบว่าเฟซบุ๊กของนายศรสุวีร์ โพสต์ด่ารัฐบาลมาโดยตลอด ต้องไปตรวจสอบว่ามีเจตนาอะไรที่โพสต์หน้ากากแบบนั้น ซึ่งพบเอาจริง วันนี้จะได้รู้ว่ามีโรงงานจริงหรือไม่”