Tag: นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์คลิปเชิญชวน นัดชุมนุมระยะสั้น โดยใช้ชื่อว่า “เมื่อเสียงที่พวกเราเลือกเข้าสภาไม่มีค่า ได้เวลาประชาชนออกมาส่งเสียงด้วยตัวเอง” การชุมนุมดังกล่าว เป็นรูปแบบการชุมนุมแบบแฟลชม็อบ ซึ่งการชุมนุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งเรื่องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีกู้ยืมเงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 191 ล้านบาท ในคลิประบุไว้ว่า “อยากเรียนเชิญ ถ้าทุกท่านทนไม่ไหว ไม่อยากจะทน กับสภาวะสังคมอย่างงี้ต่อไป อยากจะมาร่วมกันเปลี่ยนแปลง ผมขอเชิญชวนทุกคน วัน 14 ธันวาคม พบวันเวลา 17.00 น. ที่บริเวณสกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน นี้คือเวลาจะส่งเสียงให้ดัง ส่งเสียงขอประชาชนให้ผู้มีอำนาจได้ยิน” โดยจะยุติการชุมนุมทันที ในเวลา 18.00 น. ทั้งนี้ ได้เชิญชวนประชาชนผู้มาร่วมแคมเปญดังกล่าว เขียนโพสต์อิท โดยเป้าหมายของการชุมนุมในครั้งนี้ ต้องการดึงคนรุ่นใหม่ หน้าใหม่ ออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ไม่ใช่แค่ในออนไลน์ โดยทางพรรคอนาคตใหม่ จะแจ้งรายละเอียดต่างๆ ของแคมเปญนี้ให้ทราบอีกครั้ง

จากกรณีที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมคณะทำงานพรรคอนาคตใหม่ร้อยเอ็ด ได้เดินทางไปที่ลานสาเกตุนคร สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด บึงพลาญชัย เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.62 ที่ผ่านมา เพื่อพบกับชาวร้อยเอ็ด ที่ให้การสนับสนุนพรรคร่วมฟังแนวคิดและนโยบายทางการเมือง มีประชาชนจำนวนมากที่ใส่เสื้อสีส้ม สัญญลักษณ์ของพรรคอนาคตใหม่ มาร่วมกิจกรรมดังกล่าว ปรากฏว่า ขณะที่กลุ่มอนาคตใหม่ กำลังรวมตัวกันที่สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ร้อยเอ็ด ก็มีกลุ่มผู้คัดค้านที่ไม่เห็นด้วย ใช้เครื่องเสียงติดรถยนต์ และถือป้าย ข้อความ “ชาวร้อยเอ็ดไม่เอาวิ่งไล่ลุง เรารักความสงบ” โดยมีชาวบ้านประมาณ 20 คน ร่วมเดินทางมาด้วย มุ่งหน้ามาจะเข้าไปเผชิญหน้ากัน ที่สวนสมเด็จร้อยเอ็ด ซึ่งทางด้าน พ.ต.อ.พัทธกร ศาสนสุพินธ์ ผกก.เมืองร้อยเอ็ด ได้ส่งกำลัง จนท.ตร.ร่วมกับ สห.จากมณฑทหารบกที่ 27 เข้าควมคุมสถานการณ์ แล้วขอให้ฝ่ายต่อต้านไปรวมกัน ยังสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำจืด ที่ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร เพื่อป้องกันการกระทบกระทั่งกัน พร้อมกันนั้น ก็ได้ขอตรวจใบอนุญาตการขอใช้เสียงของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งปรากฏว่า ทางฝ่ายพรรคอนาคตใหม่ ได้มีการขออนุญาตใช้เสียงโดยถูกต้อง […]

วันที่ 10 ธ.ค.62 ที่บึงพลาญชัย จ.ร้อยเอ็ด นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายคารม พลทกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายสุรวาท ทองบุ ส.ส.มหาสารคาม พร้อมคณะจัดกิจกรรมวิ่งเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งมีประชาชน นักศึกษา ที่นิยมชมชอบพรรคอนาคตใหม่ สวมเสื้อคอกลมสีส้มมีตราพรรคอนาคตใหม่ จาก จ.ร้อยเอ็ด และ จ.มหาสารคาม จำนวนหนึ่ง พากันรออยู่เพื่อจะร่วมวิ่งในวันนี้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้จับไมโครโฟนขึ้นกล่าวกับประชาชนที่ไปรอ มีความบางตอน ว่า เนื่องจากวันนี้วันที่ 10 ธันวาคม เป็นวันรัฐธรรมนูญ จึงมาร่วมกับพี่น้องประชาชนวิ่งเดิน เพื่อสุขภาพและเพื่อประชาธิปไตย ประเทศไทยได้รัฐธรรมนูญมาเป็นเวลา 87 ปี แล้ว แต่ได้มีการแก้ไขหลายครั้งถึงปัจจุบันมี 20 ฉบับ มีการรัฐประการจำนวน 13 ครั้ง ดังนั้น บางครั้ง ในบางโอกาส จึงมีการเรียกว่า ประชาธิปไตยครึ่งใบ เผด็จการครึ่งใบ และ ประชาธิปไตยแบบลุง ๆ […]

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2562 จากกรณีที่เกิดกระแสข่าวว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ใช้เอกสาร สด.9 ปลอม แต่นายธนาธรได้โพสต์เฟตบุ๊กยืนยันว่าไปจับใบดำใบแดงด้วยตนเองนั้น พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าววว่า ทางกองทัพบกได้มีการตรวจสอบเอกสารการเกณฑ์ทหารของนายธนาธรแล้ว ยืนยันว่านายธนาธรเข้ารับการตรวจเลือกฯ และผ่านกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง “กองทัพพบกไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับนักการเมือง ที่มีข่าวออกมานั้น กองทัพบกเรายืนยันได้เลยว่าข่าวนั้นไม่เป็นความจริง เพราะนายธนาธรผ่านขั้นตอนถูกต้องตามกฎหมายทุกขั้นตอน“ พล.อ.อภิรัชต์กล่าว

เวลา 16.15 น.วันที่ 29 พ.ย.ที่รัฐสภา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แถลงว่า ในรอบเดือนที่ผ่านมาได้รับมอบให้เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 แต่เนื่องจากมีความผันผวนทางการเมืองในสัปดาห์ที่ผ่านมาจึงตัดสินใจลาออกจากการทำหน้าที่กรรมาธิการฯ โดยมอบหมายให้คนในพรรคที่มีศักยภาพและมีความสามารถที่สามารถทำหน้าที่แทนรวมทั้งได้ลาออกจากอนุกรรมาธิการพิจารณางบท้องถิ่นงบโครงการบริหารส่วนจังหวัด ยกเว้น 5 จังหวัดชายแดนใต้ชุดดังกล่าวด้วย นายธนาธร กล่าวว่า แม้จะออกจากสภา แต่การทำงานของพรรคอนาคตใหม่ในสภาผู้แทนราษฎรยังคงอยู่ โดยนายปิยะบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ทำหน้าที่ ส่วนสาเหตุการตัดสินใจลาออกเพื่อกลับไปอยู่กับประชาชน “เมื่อเขาไม่ต้องการเห็นอยู่ในสภาก็ไม่อยู่ในสภา ผมขอกลับไปอยู่กับประชาชน ผมเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อประชาชนลุกขึ้นยืน ไม่ก้มหัวให้กับระบอบเผด็จการ ไม่ยอมทนกับระบอบที่กดหัวประชาชนไว้อีกต่อไปดังนั้น จำเป็นต้องทำงานร่วมกับพี่น้องประชาชน สิ่งที่กลุ่มอภิสิทธิ์ชนกำลังทำอยู่ในทุกวันนี้คือการรวบอำนาจเข้าสู่ตัวเอง ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคมเข้าสู่กลุ่มตัวเองและพวกพ้อง ด้วยการใช้เครื่องมือกลไกกองทัพ สภา รัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ ระบบนิติรัฐ นิติธรรมของประเทศคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ” นายธนาธร กล่าว นายธนาธร กล่าวว่า สิ่งที่จะทำคือการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่สร้างสรรค์ ที่จะทำให้อนาคตของประเทศไทยเป็นอนาคตที่คนทุกคนเท่าเทียมกัน เป็นอนาคตที่ความเจริญเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้ทุกคนเท่าเทียม เมื่อถามย้ำว่ามีแรงกดดันให้ลาออกหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ไม่มีแรงกดดัน เป็นเรื่องของการพิจารณาว่าเมื่อเขาไม่ต้องการเห็นตนทำงานในสภา การทำหน้าที่ในกรรมาธิการพิจารณางบประมาณฯ […]

วันนี้ (28 ต.ค. 2562) อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ และสมาชิกพรรคส่วนหนึ่งจำนวน 120 คน นำโดย นายนิพนธ์ แจ่มจำรัส อดีตผู้สมัครลงรับเลือกตั้งชลบุรี เขต 2 ยื่นขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ทั้งนี้ นายนิพนธ์ ชี้แจงถึงเหตุผลการลาออกว่าเป็นปัญหาจากตัวผู้นำพรรค ที่ไม่มีสัจจะของผู้นำ ไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ก่อนการเลือกตั้ง ว่า จะให้ผู้สมัครที่สอบตกดำรงตำแหน่งอื่นในสภาผู้แทนราษฎร เช่น เลขานุการ และที่ปรึกษา ส.ส. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแม้แต่เรื่องเล็กๆ เหล่านี้ยังไม่รักษาสัจจะ แล้วจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนทั้งประเทศได้อย่างไร อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องการบริหารงานของพรรค โดยเฉพาะศูนย์ประสานงานของพรรคด้วย โดยปฏิเสธว่าสาเหตุไม่ได้มาจากการต่อรองตำแหน่งทางการเมือง พร้อมกันนี้ยืนยันว่ายังมีความคิดและอุดมการณ์ศรัทธาต่อพรรคอนาคตใหม่ เพราะเข้ามาตั้งแต่พรรคเกิด ยังไม่มีกระแสความนิยม และย้ำว่าไม่ได้จ้องทำลายพรรคช่วงขาลง การลาออกครั้งนี้ไม่มีการทาบทามให้ไปร่วมงานทางการเมืองกับพรรคการเมืองใด สำหรับอดีตผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ที่ลาออก นอกจาก นายนิพนธ์ แล้วยังมี นายภูวนาถ กาศสกุล อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 นายสมชาย เนื่องจำนงค์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 ของจังหวัดชลบุรี, นายวรพจน์ […]

วันที่ 18 ต.ค. จากกรณี ศาลรัฐธรรมนูญ นัดไต่สวน พยานจำนวน 10 ปาก ในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ขอให้พิจารณาว่า ความเป็นส.ส.ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98(3) เนื่องจากถือหุ้นสื่อ บริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด เข้าลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. หรือไม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีมติรับคำร้องเมื่อวันที่ 23 พ.ค.และสั่งนายธนาธรหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส. โดย ระหว่างการไต่สวน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้กล่าวถึง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า “..ผมตั้งใจอย่างจริงจังที่จะทำงานการเมืองโดยไม่อยากให้มีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน อย่างที่ นายทักษิณ ชินวัตร โดนมาก่อน ..ต้องการให้บ้านเป็นประชาธิปไตย หากศาลตัดสินเป็นคุณกับผม ผมจะออกไปทำเรื่องบลายด์ทรัสต์ทันที เพราะต้องการใช้มาตรฐานนักการเมืองตะวันตกในการจัดการผลประโยชน์ทับซ้อน ผมไม่ต้องเข้ามาเพื่อมีผลประโยชน์ หรือ บริวารห้อมล้อม เหมือนนายทักษิณ เพราะผมอยากจะเปลี่ยนแปลงสังคมนี้ ซึ่งถ้ายังอยู่แบบนี้ก็จะเดินต่อไปไม่ได้” ล่าสุด […]

วันที่ 18 ต.ค.62 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เดินทางไปศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากวันนี้ศาลฯ นัดไต่สวนในคดีถือหุ้นสื่อ โดยคดีนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายธนาธร สิ้นสุดลงหรือไม่ กรณีการถือหุ้นสื่อบริษัท วี – ลัค มีเดีย ระหว่างการลงสมัครรับเลือกตั้ง เหตุมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ 2560 โดยมีนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา และนางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยา เดินทางมาด้วย ขณะเดียวกันโลกออนไลน์ทวิตเตอร์ มีแฮชแท็ก #ธนาธร เพื่อให้กำลังใจนายธนาธร โดยส่วนใหญ่ขอให้นายธนาธรพ้นข้อกล่าวหานี้ ขอให้ความยุติธรรมคุ้มครอง และเป็นกำลังใจให้ บางข้อความบอกว่า ถ้าวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินธนาธรอย่างไม่ยุติธรรม ก็คงไม่ศรัทธากับความยุติธรรมของศาลไทยอีกต่อไป

วันที่ 16 ต.ค. ที่พรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุม ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ในการเตรียมความพร้อมพิจารณา ร่าง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ว่า หลังจากที่ศึกษางบประมาณมาอย่างเต็มที่โดยไม่หลับไม่นอน เห็นว่างบดังกล่าวมีปัญหาเยอะมาก สิ่งที่เราเห็นคือโจทย์ใหญ่ของประเทศยังไม่ได้รับการตอบสนอง เช่น ความเหลื่อมล้ำ ความไม่มั่นคงในชีวิต ภาวะเศรษฐกิจซบเซา ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้ พรรคอนาคตใหม่มีแนวทางเสนอ 4 ข้อ 1.งบประมาณจากส่วนกลางจะต้องถูกย้ายไปให้ท้องถิ่นมีอำนาจบริหารงบประมาณได้อิสระมากขึ้น 2.งบดำเนินการนั้นเยอะเกินไป เรากำลังนำเงินภาษีประชาชนไปเลี้ยงระบบราชการที่ใหญ่เทอะทะในรูปแบบงบเบี้ยเลี้ยง งบเดินทาง ค่าจัดสัมมนาต่างๆ เยอะมาก จึงเสนอให้ลดงบดำเนินการและเพิ่มงบลงทุน เราจำเป็นต้องมีการลงทุนมหาศาลทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน และการจัดสรรเรื่องสิ่งแวดล้อม เราจัดสรรงบลงทุนเหล่านี้ไม่เพียงพอ 3.เราต้องทำให้รัฐมีประสิทธิภาพมากขึ้น การลงทุนที่จะเกิดขึ้นต้องทำเพื่อคนทุกคน เรามีการลงทุนขนาดใหญ่ ทั้งระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี นิคมอุสาหกรรมมาบตาพุต รถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน แต่การลงทุนให้ชีวิตของคนไทยมั่นคงขึ้นเรามีน้อยมาก เราเห็นด้วยกับการลงทุนเมกะโปรเจกต์ แต่ต้องเคลื่อนย้ายถ่ายเทเงินบางส่วนให้การลงทุนเพื่อคนตัวเล็กตัวน้อยในสังคม เช่น โรงเรียนขนาดกลาง ขนาดเล็ก สาธารณูปโภคพื้นฐาน อาหารกลางวันเด็ก การคมนาคม และ4.เราจำเป็นต้องสร้างสวัสดิการให้ครอบคลุมเพื่อความเสมอภาค […]