Tag: นายอุตตม สาวนายน

วันที่ 5 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีคณะกรรมบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลาออก และเรียกร้องให้นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคที่เหลือ 16 คน เพื่อกำหนดวันประชุมใหญ่สามัญ สถานที่ และระเบียบวาระการประชุม ภายใน 45 วันตามข้อกฎหมาย ทั้งมีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคแทน ในเวลา 15.30 น. ที่กระทรวงการคลัง นายอุตตม ตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ขอไม่พูดเรื่องการเมือง ขอทำงานก่อน ในฐานะ รมว.การคลัง ขอโฟกัสเรื่องการทำงานก่อน โดยในวันที่ 8 มิ.ย. 2563 เวลา 13.30 น. จะมีการประชุม โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และมีหน่วยงานด้านเศรษฐกิจคณะใหญ่ ประกอบด้วย ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เลขาฯสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย […]

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะกรรมการบริหาร(กก.บห.)พรรคพลังประชารัฐ และแกนนำกลุ่มสามมิตร ให้สัมภาษณ์กรณีแกนนำพปชร.เรียกประชุมส.ส.วัดกำลังที่รัฐสภา ก่อนลงมติพ.ร.ก.กู้เงิน เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ตนเข้าประชุมในส่วนของวิปรัฐบาล เพื่อดูว่า ส.ส.จะยกมือตามมติพรรคอย่างไร รวมถึงปัญหาการลงคะแนน ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ตนไม่ทราบ ขณะที่มีการประชุมอีกห้อง ตนไม่ทราบ แต่อาจเป็นเวลาที่คาบเกี่ยวกัน ส่วนเหตุการณ์นัด ส.ส.ประชุม ถือเป็นการวัดพลังของแกนนำแต่ละกลุ่มหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะรับทราบข้อมูลต่างๆ คนที่เข้าประชุมก็เป็นไปตามที่พรรคนัดหมาย เพราะเป็นส.ส. จึงต้องให้ความร่วมมือทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ได้หารือกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและประธานยุทธสาสตร์พรรค เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร ส่วนที่หลายคนมองว่าศึกภายในพปชร. ยังไม่จบนั้น ตนเข้าใจเรื่องกก.บห.ที่มีข่าวจะลาออกและให้เลือกกก.บห.ชุดใหม่ “เชื่อว่าวันนี้จะมีข่าวใหญ่ ขอให้ติดตามดู ในส่วนของกก.บห. คงมีเรื่องการปรับเปลี่ยนกรรมการ และคงได้เห็นในช่วงบ่ายวันนี้ ขอให้ติดตามดู” นายสมศักดิ์ กล่าว เมื่อถามว่าข่าวใหญ่คือจะมอบให้ทีมกฎหมายพรรค ไปยื่นรายชื่อกก.บห.ที่ลาออกต่อกกต. เพื่อให้มีผลหรือไม่ […]

วันที่ 27 เม.ย.63 พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีแหล่งข่าวในพรรคพลังประชารัฐออกมาเปิดเผยว่า จะปรับคณะรัฐมนตรี 6 ตำแหน่ง โดยเฉพาะกระทรวงการคลังจะให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังขึ้นเป็นรัฐมนตรีและให้นางนฤมล ภิญโญสิณวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีขึ้นเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังนั้น ยืนยันว่าไม่มีการปรับครม. และไม่เป็นความจริง เพราะสถานการณ์ตอนนี้ต้องเอาเรื่องโควิดให้หายดีและเรียบร้อยก่อน ให้คนออกมาทำมาหากินได้ ส่วนที่มีข่าวว่าตนไปขอให้นายอุตตม สาวนายน ลาออกจากหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐในงานบวงสรวงพรรคพลังประชารัฐเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ก็ไม่เป็นความจริงไม่ได้คุยอะไรกัน รวมไปถึงกระแสข่าวจะปรับตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคอีกหลายตำแหน่งนั้นก็ ไม่มีเพราะยังไม่ได้ประชุมพรรค แต่เมื่อถามย้ำว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นนายอุตตมจะยังคงเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ใช่หรือไม่นั้น พลเอกประวิตร กล่าวว่า “ก็ยังไม่รู้แล้วแต่ที่ประชุมพรรค ถ้าที่ประชุมพรรคว่ายังไงก็ว่าตามเขา “ ส่วนที่มีกระแสข่าวความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐและการปรับโครงสร้างของพรรคออกมาในช่วงที่สถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย พลเอกประวิตรตอบว่า ใครเป็นคนปล่อยข่าวก็ให้ไปถามคนนั้น

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันที่ 10 เมษายน 2563 จะมีการหารือกับผู้บริหารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อหาข้อสรุปมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อีกครั้ง ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโดยเร็วที่สุด ซึ่งจากการหารือเบื้องต้นยังมีรายละเอียดต้องกลับไปพิจารณายังไม่ได้ข้อสรุป นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า การหารือกับ รมว.คลังวันนี้ (9 เม.ย.) ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากต้องไปทำรายละเอียดเพิ่มเติม คือ จะให้ความช่วยเหลือเป็นครัวเรือนและกี่ครัวเรือน ให้เงินช่วยเหลือเท่าใดต่อครัวเรือน และวิธีการจ่ายเงินจะจ่ายกี่ครั้งหรือครั้งเดียว โดยต้องคำนึงถึงงบประมาณจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ให้อยู่ในส่วนของวงเงินช่วยเหลือเยียวยา 600,000 ล้านบาท นอกจากนี้ กลุ่มเกษตรกรที่ได้จะต้องไม่ซ้ำซ้อนกับอาชีพอิสระที่ได้รับเงิน 5,000 บาท ผ่านการลงทะเบียนเว็บไซต์เราไม่ทิ้งกันหรือไม่ เพราะกระทรวงการคลังไม่ต้องการให้มาตรการช่วยเหลือซ้ำซ้อนกันและต้องการกระจายการช่วยเหลือไปให้ถึงจำนวนคนมากที่สุด สำหรับกลุ่มเกษตรกรที่จะรับเงินช่วยเหลือจะครอบคลุมทั้งหมด ทั้ง ชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน ประมง และปศุสัตว์ ที่มีการลงทะเบียนไว้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประมาณ 9 ล้านครัวเรือน โดยไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนใหม่ […]

วันที่ 7 เม.ย. 63 นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง แถลงผลการประชุมครม.ถึงมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19 ว่า มาตรการจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 คนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ระหว่างเดือนเม.ย.-มิ.ย.นั้น ล่าสุดครม.มีมติให้ขยายการจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้ได้รับผลกระทบคนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือน เม.ย.-ก.ย.2563 รวมเป็นเงิน 30,000 บาท แต่ให้แค่ 9 ล้านคนเท่านั้น โดยมาตรการนี้เพื่อดูแลกลุ่มอาชีพอิสระ ที่ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบอื่นที่ไม่เข้าเกณฑ์รับเงิน 5,000 บาท ครม.สั่งให้ทุกกระทรวง ให้เร่งพิจารณาหามาตรการช่วยเหลือให้มากที่สุด

วันที่ 26 มี.ค.63 นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในแถลงข่าวความพร้อมของมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบหรือผู้ได้รับผลกระทบอื่น ๆ ของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) หรือ มาตรการเยียวยา 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ว่า ขณะนี้เตรียมระบบไว้แล้ว และเปิดให้ แรงงาน ลูกจ้างชั่วคราวและอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบการแพร่จากโควิด-19 ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2563 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com เปิดให้ลงทะเบียนตลอด 24 ชั่วโมง นายอุตตม กล่าวว่า ทั้งนี้ขอให้ผู้ที่มาลงทะเบียนใช้โทรศัพท์มือถือที่สามารถติดต่อได้ เพื่อระบบจะได้แจ้งผลการลงทะเบียนและสิทธิตามมาตรการให้แก่ท่านผ่านทางข้อความผ่าน SMS ได้ ในส่วนของการรับเงินเยียวยา จะสามารถรับได้ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ บัญชีธนาคารที่ชื่อและนามสกุลเจ้าของบัญชีตรงกับชื่อและนามสกุลที่นำมาลงทะเบียน หรือพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประจำตัวประชาชน และหากไม่จำเป็นควรเดินทางมาที่สาขาของธนาคาร แนะนำให้ลงทะเบียนผ่านออนไลน์ ส่วนพร้อมเพย์สามารถดำเนินการผ่านตู้เอทีเอ็มของธนาคารได้ตลอด 24 ชั่วโมงเช่นกัน “ไม่ต้องไปแออัดที่ธนาคาร เพราะครั้งนี้ไม่เหมือนการลงทะเบียนชิมช้อปใช้ […]

จากกรณีตำรวจติดตามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีผลตรวจปรากฏเป็นผู้ติดเชื้อโควิด 19 และที่ผ่านมาตำรวจนายนี้ได้มีการมาปฏิบัติหน้าที่ติดตามรัฐมนตรีฯที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเฉพาะตึกบัญชาการ และบริเวณโดยรอบ เพื่อป้องกันและสร้างความเชื่อมั่นว่าเชื้อโควิด 19 จะไม่แพร่กระจาย เมื่อวันที่ 19 มี.ค.นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ดำเนินการตามแนวทางที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ ประกอบด้วย 1.ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กองโรคระบาด กรมควบคุมโรค จะไปดำเนินการสอบสวนเพื่อค้นหาผู้สัมผัส ผู้อยู่ใกล้ชิด และจากผู้ป่วยที่โรงพยาบาล และจะรีบแจ้งผลมาให้ทราบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับทำเนียบรัฐบาล 2.เมื่อคืนที่ผ่านมา (18 มีนาคม 2563) ได้ดำเนินการพ่นยาฆ่าเชื้อทั้งที่ตึกไทยคู่ฟ้า ตึกบัญชาการทั้ง 5 ชั้น และดำเนินการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อสถานที่ทำงานในพื้นที่ต่างๆโดยเฉพาะพื้นที่จุดเสี่ยงอย่างต่อเนื่องทุกวัน พร้อมจัดระบบคัดกรองไข้ สนับสนุนการใส่หน้ากากทุกคน จัดให้มีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือในทุกจุด 3.ในวันเดียวกันนี้ (19 มีนาคม 2563) ให้หัวหน้าส่วนงานที่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานที่ตึกบัญชาการในวันประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 ทั้งจากหน่วยงานภายในทำเนียบรัฐบาล และจากหน่วยงานภายนอกที่เข้ามาปฏิบัติงาน จัดให้มีการรายงานตัวเพื่อให้ได้ข้อมูลบุคคลที่อยู่ใกล้ชิดหรือสัมผัสกับผู้ป่วยเพื่อแยกกลุ่ม และผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ให้หยุดงานไปเฝ้าระวังสังเกตอาการที่บ้าน 14วัน ส่วนผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำให้ใช้วิธีself distance ใส่หน้ากาก […]

วันที่ 6 มี.ค. 63 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง แถลงภายหลังการประชุม ครม.เศรษฐกิจ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน โดยนายอุตตม กล่าวว่า ครม.เศรษฐกิจ เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการชุดที่ 1 ลดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 โดยหนึ่งในมาตรการสำคัญ คือ การให้เงินแก่ผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ผ่านระบบอีเพย์เมนต์ จำนวนคนละ 2,000 บาท โดยจะให้เป็นเวลา 2 เดือน เดือนละ 1,000 บาท ส่วนตัวเลขจำนวนผู้ที่จะได้รับการช่วยเหลือ ยังต้องรอผลสรุปอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์ต่อไป.

เมื่อวันที่ 26 พ.ย.62 นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า 3 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบด้วย มาตรการแรก คือ การเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ประกอบด้วย 3 โครงการย่อย ได้แก่ -โครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานระดับหมู่บ้าน โดยจัดสรรเงินให้แก่กองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมือง แห่งละไม่เกิน 200,000 บาท ผ่านสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ภายใต้วงเงินรวม 14,348.4 ล้านบาท เพื่อให้เกิดการจ้างงาน -โครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สนับสนุนสินเชื่อวงเงินรวม 50,000 ล้านบาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0.01% ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยตามปกติของ ธ.ก.ส. ระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 -โครงการพักชำระหนี้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตามความสมัครใจ เฉพาะหนี้เงินต้นเป็นเวลา […]