เมื่อวันที่ 5 เม.ย.63 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นคลิปขณะว่ายน้ำในสระว่ายน้ำ พร้อมข้อความว่า “ช่วงนี้สถานการณ์ Covid 19 ระบาดเพิ่มขึ้น มาออกกำลังสู้Covid19 กันครับ #เราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันครับ” อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้ที่เข้ามาแสดงความเห็นใต้คลิปดังกล่าวไปต่างๆนานา บางส่วนมองว่า เป็นการอวดรวย อีกหลายคนเข้ามาเหน็บเรื่อง “แป้ง” บางคนบอกว่า “อย่าลืมทางแป้งด้วย” เนื่องจากก่อนหน้านี้ สื่อออสเตรเลียตีเคยเผยแพร่ข่าวที่ระบุว่า ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งถูกดำเนินคดีเฮโรอีนในออสเตรเลีย ได้บอกไว้ว่า เฮโรอีน’ คือ ‘แป้ง’
Tag: รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
วันที่ 10 มี.ค.2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงกระแสสังคมเรียกร้องให้ลาออก หลังจากที่เพจดังแฉบุคคลใกล้ชิดอาจเกี่ยวข้องกับการกักตุนหน้ากากอนามัยว่า กระแสสังคมอะไร เพราะตอนนี้ความจริงเริ่มประจักษ์แล้ว เริ่มได้ขยายผลแล้ว เดี๋ยวก็จะรู้ ว่ามีใบออร์เดอร์จริงหรือไม่ และของไปอยู่กับใคร ขอให้รอตรวจสอบตรงนี้ดีกว่า เดี๋ยวรอพิสูจน์ความจริงในเร็วๆนี้ เวลานี้การนำเสนอข่าวของสื่อ ควรนำเสนอความจริงให้สังคมได้เห็น โดยเฉพาะในเวลานี้ที่บ้านเมืองกำลังมีวิกฤต ควรนำเสนอข่าวด้วยความระมัดระวัง นำข้อมูลที่เป็นจริงมานำเสนอ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เวลานี้เจ้าหน้าที่ได้สาวไปถึงต้นตอแล้ว แต่สื่อกลับมามองประเด็นว่า ตนจะลาออกหรืออยู่ สื่อควรนำเสนอสิ่งที่เกิดประโยชน์ต่อบ้านเมืองและประชาชนมากกว่า ควรกระชากหน้ากากในเรื่องนี้ ว่าแท้จริงแล้วใครอยู่เบื้องหลังกันแน่ การที่มีคนใดคนหนึ่งออกมาพูดน้ำไหลไฟดับ คงไม่ธรรมดา อาจจะมีใครอยู่เบื้องหลัง ซึ่งตอนนี้ตนก็รู้มากแล้ว เมื่อถามว่าจะดำเนินการอย่างไรกับผู้ที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตอนนี้ได้แจ้งความดำเนินคดีกับสื่อออนไลน์ทุกสื่อที่เกี่ยวข้อง พิสูจน์ความจริงต่อสังคม ใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนี้ จะถูกแฉความจริง เรื่องหน้ากากฯ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ก็บอกแล้วว่าไม่มีของจริง เมื่อถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นกระบวนการจ้องดิสเครดิตหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ต้องพูดก็รู้อยู่แล้วว่าอะไรคืออะไร ส่วนที่มีคนในพรรคออกมากดดันนั้น ภายในพรรค เดี๋ยวก็คุยกันได้ ไม่ได้ติดใจอะไร […]
วันที่ 9 มี.ค.63 ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวว่า คนสนิทผู้ติดตามตนเองได้กักตุนหน้ากากอนามัยจำนวน 200 ล้านชิ้น เพื่อขายต่อให้กับนายทุนจีนและผู้อื่นนั้น จากการตรวจสอบพบว่าผู้กักตุนและขายหน้ากากอนามัยคือนายศรสุวีร์ ภู่รวีร์รัศวัชรี ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับตัวเอง ส่วนนายพิตตินันท์ รักเอียด ซึ่งเป็นคณะทำงานของตัวเองนั้น ได้ยืนยันว่าได้ไปพบกับนายศรสุวีร์ตามคำแนะนำของเพื่อนเพื่อพูดคุยเรื่องหน้ากากอนามัยจริง เพื่อเอาไปแจกประชาชนในพื้นที่เขตเลือกตั้งของนายพิตตินันท์ โดยได้ไปพบกันที่โรงแรมแมริออท (ประตูน้ำ) กรุงเทพมหานคร แต่ไม่ได้มีการซื้อขายหน้ากากอนามัยกันและไม่เคยรู้จักกันกับนายศรสุวีร์มาก่อนโดยเป็นการพบกันครั้งแรก เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ในเรื่องนี้ ข้าพเจ้าได้ขอให้นายพิตตินันท์ไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายศรสุวีร์ในความผิดฐานกักตุนหน้ากากอนามัยและขายสินค้าเกินราคาและในความผิดที่ถูกนายศรสุวีร์แอบอ้างนำข้อความไปโพสต์ดังกล่าว พร้อมกับให้นำหลักฐานการแจ้งความมาแถลงข่าวเพื่อให้ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบอีกทางแล้วโดยนายพิตตินันท์จะดำเนินการในวันนี้ นายพิตตินันท์ รักเอียด เคยเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 6 จังหวัดสุราษฎร์ธานี พรรคพลังประชารัฐ ได้ขอมาเป็นคณะทำงานของข้าพเจ้าจริง แต่หากพบว่านายพิตตินันท์ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของนายศรสุวีร์ดังกล่าว ข้าพเจ้าพร้อมที่จะให้ความร่วมมือดำเนินคดีกับนายพิตตินันท์ทันที พร้อมทั้งได้ประสานไป สภ. หนองปรือ จังหวัดชลบุรี ให้ตรวจสอบเรื่องนี้ หากพบว่ามีการกักตุนหน้าหากจริง ก็จะเข้าไปทลายวงจรอุบาทว์นี้ด้วยตัวเอง และได้ตั้งคณะทำงานมาตรวจสอบพฤติกรรมของนายพิตตินันท์ หากผิดจริงจะให้ออกจากคณะทำงานและดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด พร้อมย้ำว่าไม่ว่าใครหน้าไหนถ้าทำผิดจริงก็จะไม่เอาไว้แน่นอน เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า คนที่จะสามารถกักตุนหน้ากากได้ถึง 200 ล้านชิ้น จะต้องมีอำนาจหรือรู้จักกับผู้มีอำนาจ ถึงได้สินค้าจำนวนมากขนาดนี้ ซึ่งร้อยเอกธรรมนัส ก็ปฏิเสธว่าไม่ทราบถึงขบวนการ กำลังตรวจสอบอยู่ […]
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 4 ธันวาคม 2562 ที่รัฐสภา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีประธานวิปฝ่ายค้านระบุมีความพยายามล๊อบบี้ ส.ส.ฝ่ายค้านกว่า 20 คน โดยเสนอผลตอบแทนให้ 8 หลัก ว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ ซึ่งตนเองยังประสานงานกับพรรคเล็กที่ร่วมรัฐบาลเหมือนเดิม แต่ไม่มีการประสานงานหรือพูดคุยกับฝ่ายค้าน ส่วนเรื่ององค์ประชุมสภาผู้แทนราษฎรก็เป็นหน้าที่ของวิปรัฐบาลที่จะดูแล เพราะมองว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการชิงไหวชิงพริบในเกมการเมือง ส่วนการชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) กรณีวุฒิการศึกษาปลอม ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การประชุมวันนี้ไม่ได้มาเพื่อชี้แจง แต่เป็นการประชุมร่วมกันเพื่อหาทางออกเรื่องมาตรฐานวุฒิการศึกษา โดยได้มอบข้อมูลวุฒิการศึกษาโดยเฉพาะวุฒิปริญญาเอกต่อคณะกมธ. โดยยอมรับว่าไม่รู้ว่าสถานศึกษามีมาตรฐานหรือไม่ โดยทำหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้ตรวจสอบสถาบันดังกล่าวแล้ว หากได้ข้อมูลชัดเจน จะเอาข้อมูลมาให้คณะกมธ.ต่อไป ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การให้ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการให้ข้อเท็จจริงเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคม ซึ่งพบว่า 182 โครงการของมหาวิทยาลัยชื่อดัง 40 แห่งในประเทศไทย ไม่ได้มาตรฐานจนถูกสั่งให้ยุบ และส่วนใหญ่เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังทั้งนั้น การให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการจึงเป็นประโยชน์ให้บุคคลที่จะศึกษาโครงการออนไลน์หรือโครงการทางไกล ว่าต้องดูดีๆ อย่าไปถูกหลอก ซึ่งบรรยากาศการประชุมกรรมาธิการทุกคนก็ให้เกียรติตนเองเป็นอย่างดี