Tag: สมุทรปราการ

วันที่ 25 ก.ค.65 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาตรวจราชการที่เทศบาลตำบลบางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เพื่อตรวจความพร้อมแผนระบายน้ำในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ทันทีที่พล.อ.ประวิตร ลงจากรถยนต์ประจำตำแหน่ง กรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัญ ที่ยืนต้อนรับอยู่ด้านหน้า ได้ก้มลงพร้อมกราบเท้า พล.อ.ประวิตร ทันที ทำให้ พล.อ.ประวิตร บอกให้ลุกๆเดี๋ยวจะลุกไม่ไหว จากนั้นได้ปิดห้องเล็กเคลียร์ใจกับ ส.ส.พปชร ปากน้ำ โดยนันทิดา แก้วบัวสาย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าร่วมด้วย กรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.สมุทรปราการ เขต 5 พรรคพลังประชารัฐ อภิบายว่า โจทย์ใหญ่คือ รมว.มหาดไทย ซึ่งเป็นแม่บ้านรัฐบาลและเคยสัญญาว่าในพื้นที่สมุทรปราการ มีอะไรให้แจ้ง แต่พอแจ้งกับเจ้าตัวก็ไม่ได้รับการตอบสนอง เพราะกระทรวงไม่ส่งมาที่จังหวัดเลยทำอะไรไม่ได้ นี่เรียกว่า กระตุกหนวดเสือ เสือหลับจึงเรียกให้ตื่นว่ามาดูลูกๆบ้างว่าเป็นยังไง “อย่าว่าแต่ลุงป๊อกเลย ลุงตู่ถ้าไม่ถูกผมก็ขึ้นเวทีอภิปราย” พร้อมเผยว่า เคยร้องเรียนปัญหาไปแล้วและให้ทำแผนเสนอไปแต่สุดท้ายไม่ได้ “อะไรก็ไม่ได้ ทีนี้เราจะไปอยู่ยังไง” เมื่อถามภายหลังว่า […]

วันที่15 ต.ค.2564 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเรือขนน้ำมันเถื่อน 1 ล้านกว่าลิตร ที่ปากคลองสรรพสามิต ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ โดยถูกตรวจยึดได้เมื่อวานนี้ ทางพล.ต.อ.สุวัฒน์เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ทางเจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับ ให้เข้าตรวจสอบเรือบรรทุกน้ำมันสีดำ ชื่อ MITA 1 หลังพบว่ามีการขนน้ำมันเถื่อน 1 ล้านกว่าลิตร โดยเรือจะเดินทางเข้ามาในอ่าวไทยตอนบน จึงนำเรือลาดตระเวนจนถึงปากร่องน้ำเจ้าพระยา พบเรือดังกล่าว แล่นเข้ามา จึงสั่งให้ตรวจสอบ พบกัปตันเรือคนไทย และลูกเรืออีก 8 คนและเจอน้ำมันดังกล่าว ทั้งนี้ภายในเรือ เจ้าหน้าที่พบของเหลวใสสีเหลือง คล้ายน้ำมันดีเซลบรรทุกอยู่ในระวางเรือ ซึ่งสามารถบรรจุสิ่งของได้ 1.2 ล้านลิตร แต่เมื่อเรียกตรวจสอบเอกสาร ทางกัปตันกลับไม่สามารถแสดงเอกสารการได้มาของสิ่งของดังกล่าวได้ นอกจากนี้เอกสารทะเบียนเรือ ใบอนุญาตใช้เรือก็ไม่มี จึงจำต้องคุมเรือดังกล่าวเข้าท่าทันที เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ศุลกากรและกรมสรรพสามิตได้เก็บตัวอย่างของเหลว พบว่าเป็นน้ำมันดีเซล เจอสารมาร์คเกอร์ มีความเข้มข้นใช้สำหรับเติมน้ำมันส่งออกไปต่างประเทศ ซึ่งได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิต อย่างไรก็ดีเมื่อนำสารดังกล่าวส่งออกไปแล้ว จะไม่สามารถนำกลับเข้ามาในราชอาณาจักรได้อีก ดังนั้นเรือลำนี้จึงถือว่าลักลอบนำน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาในราชอาณาจักร มีความผิดตามพ.ร.บ.ศุลกากรและพ.ร.บ.สรรพสามิต เจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนเพื่อขยายผลหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป

วันที่ 12 ก.ย. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางมาตรวจความพร้อมแผนป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าภายหลังลงพื้นที่ว่า วันนี้ถือเป็นการตรวจระบบแรงดันน้ำครั้งแรกของเราตั้งแต่ปี 57 เป็นต้นมา เพราะก่อนหน้านั้นมีปัญหาเรื่องน้ำท่วมอยู่หลายพื้นที่ ซึ่งคงไม่ได้ไปโทษใครอะไร เพราะมันผ่านมาแล้ว สำหรับสะพานส่งน้ำ สถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ เป็นที่ระบายน้ำหลัก วันนี้ได้คุยกับ สนทช. กรมชลประทาน ถือว่าสถานีระบายน้ำแห่งนี้ยังสามารถแก้ปัญหาเรื่องป้องกันและแก้ไขน้ำท่วมได้มากพอสมควรในระดับหนึ่ง ส่วนกาลข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องบริหารพื้นที่ไป นอกจากนี้ จะต้องดูว่ามีเครื่องกีดขวางในการระบายน้ำอย่างไร และต้องวางแผนกับ สนทช.ในการบริหารจัดการเรื่องน้ำ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีระบบหมุนน้ำดีก็ตาม มันขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย หลายประเทศก็เกิดปัญหาน้ำท่วม ประเทศที่มีรายได้สูงก็มีปัญหาเรื่องน้ำท่วม จึงกำชับไปว่าขอให้ระวัง และมองอนาคตไว้ด้วย ถ้าวันหน้ามันมากกว่านี้ด้วยสถานการณ์ภูมิอากาศโลกมากขึ้น อย่างเรื่องโลกร้อน น้ำแข็งละลาย ปริมาณน้ำในทะเลสูงขึ้น จึงต้องมองปัญหาในระยะยาว และร่วมมือกันไว้กับหลายประเทศ หลายภูมิภาค

วันที่ 12 ก.ย. 2564 ที่คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่บริเวณจุดบริการฉีดวัคชีนโควิด 19 โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าฯสมุทรปราการ และ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ นำโดย นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก นายอัครวัฒน์ อัศวเหม นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ นายยงยุทธ สุวรรณบุตร น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ และนางนันทิดา แก้วบัวสาย นายก อบจ.สมุทรปราการ รอต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวทักทาย ส.ส.พรรค พร้อมฝากให้ช่วยดูแลประชาชนพื้นที่ ก่อนจะถามหา นายกอบจ.สมุทรปราการ (ตู่ นันทิดา) พร้อมกล่าวขอให้ช่วยกันดูแลประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า […]

จากเหตุการณ์ระเบิดและไฟไหม้ภายในบริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตโฟมและเม็ดพลาสติก ซอยกิ่งแก้ว 21 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ (5 ก.ค. 64) ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ เป็นชาวบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียงจำนวนมาก รวมถึงเจ้าหน้าที่ดับเพลิง และอาสาหน่วยบรรเทาสาธารณะภัยที่กำลังฉีดน้ำสกัดเพลิงถูกไฟคลอกทั้งตัวได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 คน และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุถูกไฟคลอก 1 คน พร้อมกันนี้ได้มีการประกาศสั่งอพยพประชาชนให้พ้นจากรัศมีบริษัทที่เกิดเหตุ เนื่องจากเพลิงยังไม่สงบ และยังปะทุลุกลามเข้าใกล้กับสารเคมีที่ยังหลงเหลือ ต่อมา ทางเพจเฟซบุ๊ก “กรมฝนหลวงและการบินเกษตร” ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวระบุข้อความว่า “จากกรณีเพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก ของบริษัท หมิงตี้เคมีคอล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ปฏิบัติการฝนหลวงช่วยบรรเทาฝุ่นควันจากเหตุดังกล่าว โดยในช่วงบ่าย หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีการติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง หากเข้าเงื่อนไขการทำฝน จะวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการช่วยเหลือทันที!” ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ ได้สั่งการเพิ่มเติมว่า การทำฝนจะไม่เหมาะกับสถานการณ์ระงับเหตุในครั้งนี้ เนื่องจากอาจได้รับผลกระทบจากสารเคมีที่ปนเปื้อนได้ จึงได้สั่งการให้ยกเลิกภารกิจดังกล่าวที่เตรียมการไว้แล้ว

จากกรณีพ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รองผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติไม่ชอบ พ.ต.อ.พยงค์ เอี่ยมสกุล ผกก.3 เดินทางมาพร้อมตำรวจ เพื่อตรวจสอบข้อมูลการใช้จ่ายงบประมาณ อบต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ในการจัดทำโครงการจัดซื้อเสาไฟฟ้ารูปประติมากรรมกินรี วงเงินหลายร้อยล้านบาท ในช่วงระยะเวลาหลายปีผ่านมา ซึ่งปรากฏชื่อ บริษัท บางกอกไฟถนน จำกัด เอกชนรายเดียวผูกขาดรับงานเป็นคู่สัญญาทุกโครงการ โดยนายทรงชัย นกขมิ้น นายกอบต.ราชาเทวะ ชี้แจงให้ตำรวจปปป.ว่า ก่อนหน้านี้มีผู้ร้องเรียนเรื่องดังกล่าวมานานแล้ว จนกระทั่งเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ปปช.จังหวัดและภาค เรียกตนไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเสาไฟกินรี ซึ่งตนชี้แจงทุกอย่างๆ โปร่งใส มีที่ไปที่มาอย่างชัดเจน ตามมาด้วยกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ล่าสุด พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมลงภาพเสาไฟฟ้ารูปประติมากรรมกินรี แต่ถนนกับยังเสียหาย พร้อมแคปชั่นว่า เราจะต้องการเสาไฟที่วิจิตรพิสดารไปเพื่ออะไร ในเมื่อถนนหน้าบ้านยังมีสภาพแบบนี้อยู่ #เสียดายเงินงบประมาณ

วันที่ 28 ม.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กเพจ “เครือสหพัฒน์-แหลมฉบัง-ชลบุรี” ได้โพสต์คลิปพนักงานของบริษัท แมรีกอท จิวเวลรี่ (ประเทศไทย) นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ กำลังร่ำลาและเก็บข้าวเก็บของเดินทางกลับบ้าน เนื่องจากโรงงานปิด เพื่อยุบไปใช้โรงงานผลิตที่นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค บางปะอิน จ.พระนครอยุธยา แทน อันเนื่องมาจากผลกระทบของโควิด ซึ่งบริษัทดังกล่าวเปิดทำการมาแล้วถึง 33 ปี และการปิดตัวในครั้งนี้ ทำให้พนักงานในโรงงานกว่า 2,600 คน ต้องตกงานทันที โดยก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊กเพจ “สังคมโรงงาน V2” ก็ได้โพสต์ภาพบรรยากาศบริเวณหน้าโรงงาน ที่มีพนักงานมารวมตัวกันเพื่อร่ำลา พร้อมข้อความว่า “ปิดตำนานจิวเวลรี่นิคมบางปู ย้ายไปรวมสาขาอยุธยา ขอให้โชคดีนะทุกคน”

จากกรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้นำเหยื่อซึ่งเป็นผู้หญิงอายุ 27 ปี เข้าร้องทุกข์กับ พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ 10 นายตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางพลี ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด เป็นเงินกว่า 1.3 แสนบาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว ล่าสุด พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้มีคำสั่ง ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 229/2563 เรื่อง ให้ข้าราชการไปปฎิบัติราชการ โดยระบุว่า ด้วย ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการปฎิบัติหน้าที่ราชการตำรวจบางรายในพื้นที่ของ สถานีตำรวจภูธรบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โดยอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี ว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่า จะกระทำความผิดตามที่ได้รับเรื่องร้องเรียนหรือไม่นั้น จึงให้ข้าราชการตำรวจไปปฎิบัติราชการที่ศูนย์ปฎิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ โดยขาดจากตำแหน่งเดิม จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 27 พฤษภาคม 2563 ทั้งนี้ […]

วันที่ 24 มี.ค.63 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ชายอายุ 70 ปี ชาวจ.สมุทรปราการ ผู้ป่วยที่รับการรักษาวัณโรคและโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ได้เสี ยชีวิตลงแล้ว สาเหตุจากปอดถูกทำลาย ทั้งนี้ทางบุตรสาวของผู้เสี ยชีวิตแจ้งว่า บิดาทำงานเป็นคนขับรถทัวร์จีน หลังจากมีอาการป่วยได้เข้ารับการรักษาวัณโรค ก่อนจะพบว่าติดเชื้อ โควิด-19 และมารักษาตัวต่อยังสถาบันบำราศนราดูร จนเชื้อวัณโรคและโควิด-19หายไปหมดแล้ว แต่เพราะปอดถูกทำลายเสียหายหนักทำให้ร่างกายอ่อนแอ ซึ่งที่ผ่านมาบิดารู้สึกตัวและสื่อสารกับญาติพี่น้องด้วยการกระพริบตาเท่านั้น หลังจากเสี ยชีวิตลงแล้วปรากฏว่า ได้พยายามติดต่อไปยังวัดต่าง ๆปรากฏว่าไม่มีวัดไหนกล้รับทำพิธีศ พให้บิดา จึงอยากให้ฝ่ายหน่วยงานเกี่ยวข้องลงมาช่วยเหลือในเรื่องนี้ด้วย FB-Kumphol Tundang ได้โพสต์ว่า คุณพ่อเสี ยชีวิตเนื่องจากการติดเชื้อไวรัสโควิด_19 โดยมีการยืนยันเป็นใบรับรองการตา ย แพทย์ลงความเห็นการเสี ยชีวิตจากสาเหตุการติดเชื้อไวรัสโควิด19 ที่โรงพยาบาลบําราศนราดูร พ่อจากไปแล้ว เมื่อ18.10น. ผลสืบเนื่องจากโควิค19 ที่ทำลาย ปอด เชื้อหายแต่อวัยวะไม่สามารถฟื้นกลับมา พ่อสู้ ไอโรคบ้านี้มาเกือบ2เดือน #ไม่ต้องห่วงลูกๆนะ รักที่สุด 😭😭😭😭😭