วันที่ 26 ต.ค.63 นายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่าได้รับมอบหมายให้อภิปรายประเด็นการขัดขวางขบวนเสด็จที่เป็นเหตุให้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง และการปฏิรูปสถาบัน ซึ่งจะเป็นสไตล์ของตัวเองแบบตรงไปตรงมา แม้จะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนแต่หากพูดด้วยความสุจริตใจ ก็ไม่ได้เป็นการละเมิดสถาบัน จึงเห็นว่าไม่จำเป็นต้องเป็นการประชุมลับ และสิ่งที่พูดจะชี้ให้เห็นว่าใครอยู่เบื้องหลังและมีความตั้งใจที่จะล้มล้างสถาบัน “ รู้กันอยู่ว่ามีคนตาเหล่สองคนหน้าเหลี่ยมหนึ่งคนที่อยู่เบื้องหลัง ใช้ผู้ชุมนุมเป็นเครื่องมือ การประชุมครั้งนี้หากใครใช้วาทะกรรมก็ต้องรับผิดชอบคำพูดของตัวเอง ดูจากการไลฟ์สดผู้ชุมนุมมีการโพสต์ยั่วยุปลุกปั่นแต่ไม่ออกมาร่วมชุมนุมเอง” นายสิระ กล่าว อย่างไรก็ตามในวันนี้ นายสิระ ได้ลากกระเป๋าเดินทาง เข้าสภาฯ โดยมีเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวเพื่อเตรียมพักค้างคืนเผื่อไม่สามารถออกจากรัฐสภาได้หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยมีผู้ชุมนุมปิดล้อมรัฐสภาจนเกือบออกไม่ได้ โดยส่วนตัวเชื่อว่า ”วันนี้ ได้นอนค้างแน่ๆ”
Tag: สิระ เจนจาคะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาสมัยวิสามัญในวันที่ 26-27 ต.ค.เพื่อเปิดให้มีการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 165 พรรคพลังประชารัฐได้มีการติวเข้ม ส.ส.ทั้ง 5 คนของพรรค ได้แก่ วิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล, ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ, ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี, และสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. ทั้งนี้ในส่วนของ สิระและ ปารีณา จะมีคิวในการอภิปรายในวันที่ 26 ต.ค.โดยคาดว่าจะได้รับการจัดสรรเวลาค่อนข้างมาก ส่วนเนื้อหาในการอภิปรายจะมุ่งเน้นไปถึงเหตุการณ์ขัดขวางขบวนเสด็จ
วันที่ 1 ก.ค. 2563 ศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่ผลการพิจารณา ภายหลังประชุมปรึกษาพิจารณาคดีที่สําคัญ กรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคําร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ นายสิระ เจนจาคะ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (7) ประกอบมาตรา 185 (1) หรือไม่ ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก (7 : 1) วินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (7) ประกอบ มาตรา 185 (1) ทั้งนี้ กรณีของ นายสิระ เกี่ยวเนื่องจากเรื่องที่เดินทางลงตรวจสอบพื้นที่ จ.ภูเก็ต และมีคลิปการโต้ตอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ซึ่งวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่า นายสิระ ไม่สิ้นสมาชิกภาพ ส.ส.
วันที่ 9 มิ.ย.63 บรรยากาศที่พรรคพลังประชารัฐ มีบรรดา ส.ส. มาประชุมวาระงานตามปกติเพื่อเตรียมตัว ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในสัปดาห์นี้ มี ส.ส.พรรคเข้าร่วม และมีแกนนำพรรคคนสำคัญ ประกอบด้วย นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายไพบูลย์ นิติตะวัน รักษาการรองหัวหน้าพรรค, นายอนุชา นาคาศัย แคนดิเดตเลขาธิการพรรค, นายสุชาติ ชมกลิ่น ประธาน ส.ส. พรรค, นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. แต่ไม่มีวี่แววของ นายอุตตม สาวนายน รักษาการหัวหน้าพรรค และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รักษาการเลขาธิการพรรค ก่อนเข้าสู่การประชุม นายสิระจึงได้ลุกขึ้นขอหารือประกาศตามหาคนหาย เนื่องจาก รักษาการหัวหน้าพรรค, เลขาธิการพรรคไม่เข้าร่วม การประชุมพรรค 2-3 ครั้งไม่รับฟังปัญหาของสมาชิก หากไม่มาก็ขอให้ลาออกไป หรือหากมีปัญหาอะไรให้เข้ามาพูดคุยในพรรค ภายหลังจากที่ นายสิระ ลุกขึ้นพูด นายไพบูลย์ […]
วันที่ 1 พ.ค.นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และกรรมการบริหารพรรค พปชร.พยายามเป็นผู้ประสานความขัดแย้งภายในพรรค หลังเกิดกระแสความวุ่นวาย ว่า เวลานี้ทุกคนกำลังร่วมมือกันทำงาน เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤต โควิด-19 ไม่ใช่เวลาทะเลาะแย่งตำแหน่งกัน และไม่จำเป็นต้องมีคนมาคอยนั่งเคลียร์ปัญหา เพราะผู้ใหญ่ในพรรคมีวัยวุฒิ และคุณวุฒิมากพอ ร.อ.ธรรมนัส ควรเอาเวลาไปเคลียร์ปัญหาตัวเอง ให้ภาพลักษณ์เป็นที่ยอมรับจากประชาชนก่อน เพราะจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งที่ผ่านมา ยังเคลือบแคลงสงสัยอยู่ และวันนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังไม่มีบารมีมากพอ ที่จะมาเคลียร์ปัญหาให้ผู้ใหญ่ภายในพรรค เพราะแต่ละคนมีประสบการณ์การทำงานทางการเมืองมาหลาย 10 ปี มากกว่า ร.อ.ธรรมนัส แน่นอน อย่างไรก็ตามหากมีปัญหาจริง วุฒิภาวะของผู้ใหญ่ในพรรคทุกคน สามารถพูดคุยกันได้ ไม่จำเป็นต้องให้ ร.อ.ธรรมนัส ต้องเหนื่อยสวมบทบาทฮีโร่ประสานสิบทิศ เพื่อมาเคลียร์ปัญหา
จากกรณีนายสิระ เจนจาคะ สส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนษยชน สภาผู้แทนราษฎร แสดงความเสียดายต่อความรู้ความสามารถของนายปิยบุตร แสงกนกกุล ,น.ส.พรรณิการ์ วานิช ที่ต้องพ้นจากความเป็นส.ส. หลังอนาคตใหม่โดนยุบพรรค ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ก.พ. น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงประเด็นนี้ โดยระบุว่า “#โกรธสิระ จะไปเสียใจเรื่องอะไรกับปิยบุตรพ้นส.ส. เรื่องคนมีความรู้ไม่เถียง แต่คนมีความรู้แล้วยังจะทำผิดกฎหมายคือไร ส่วนการทำหน้าที่ประธานกรรมาธิการก็ไม่เหมาะสม เพราะมีผู้ที่เหมาะสมมากกว่ามากมาย และปิยบุตรเองถูกกล่าวหาคดีอาญามากมาย ทำผิดกฎหมายถูกยุบพรรค จะไปยุติธรรมอะไรกับใครเล่า วันนี้สัมมนาที่พัทยา 2 วัน ลาร่วมกิจกรรมในพื้นที่อาทิตย์นี้นะคะ”
วันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สภาผู้แทนราษฎร เรื่อง ตั้งกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ให้ ปารีณา ไกรคุปต์ และ สิระ เจนจาคะ ดำรงตำแหน่งแทน ธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์-พยม พรหมเพชร ความว่าประกาศสภาผู้แทนราษฎรเรื่อง ตั้งกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ แทนตําแหน่งที่ว่าง ตามที่ได้มีประกาศสภาผู้แทนราษฎร ลงวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๒ ตั้ง นายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ และนายพยม พรหมเพชร เป็นกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ นั้น เนื่องจาก นายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ และนายพยม พรหมเพชร ได้พ้นจากกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ เพราะลาออก และในคราวประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๑ (สมัยสามัญประจําปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ที่ประชุมเห็นชอบให้ตั้ง นางสาวปารีณา […]