จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เรื่องราวของผู้สื่อข่าวสาวช่องหนึ่ง ไปแจ้งความที่ สน.ภาษีเจริญ แล้วถูกร้อยเวร ยศร้อยตำรวจโท (ร.ต.ท.) พูดจาคุกคามทางเพศว่า “ใส่กางเกงในมาไหม” ก่อนจะเรียกขึ้นไปชั้น 3 ซึ่งเป็นห้องส่วนตัว พร้อมกับรีดไถเงินค่าน้ำค่ากาแฟเลี้ยงตำรวจในโรงพัก จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำดังกล่าวที่ไม่เหมาะสมนั้น. ล่าสุด วันที่ 19 ก.ย. 64 พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับ พ.ต.อ.สุรเวช การวัฒนาศิริกุล ผกก.ภาษีเจริญ พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันคือวันที่ 15 กันยายน 2564 ก่อนจะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นทราบว่า มีมูลตามกรณีที่เป็นข่าวและมีการพูดคุกคามจริง ทั้งนี้ ทางผู้บังคับบัญชาของตำรวจนายดังกล่าวไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงได้ออกคำสั่งย้าย ด.ต…………………. ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ป.สน ภาษีเจริญ ไปปฎิบัติหน้าที่อื่นที่ไม่พบปะประชาชนโดยออกคำสั่งสถานีตำรวจนครบาลภาษีเจริญ ที่ 155/2564 ลงวันที่ 15 กันยายน พ.ศ.2564 แล้ว อีกทั้งตำรวจนายดังกล่าวนี้มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยพนักงานสอบสวนยศดาบตำรวจ ไม่ใช่ร้อยตำรวจโทแต่อย่างใด ซึ่งทางต้นสังกัดได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการทางวินัยต่อไป พ.ต.อ.หญิงศิริกุล […]
Tag: นักข่าว
วันที่ 31 มี.ค.64 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ตำหนินักข่าวนั่งไขว่ห้างระหว่างฟังการแถลงผลการประชุมครม.ว่า ตามอารมณ์และวิธีคิดของพล.อ.ประยุทธ์ไม่ถูกจริงๆ ก่อนหน้านี้นึกจะโยนเปลือกกล้วยใส่นักข่าวก็โยน นึกจะไล่ฉีดแอลกอฮอล์ใส่นักข่าวก็ฉีด แม้จะอธิบายว่าล้อเล่น ต้องการสร้างความเป็นกันเองกับนักข่าว แต่สังคมประเมินได้ว่าพฤติกรรมดังกล่าวพึงกระทำหรือไม่ บทจะโมโหโทโสฉุนเฉียวเจ้ายศเจ้าอย่าง แสดงอำนาจบาตรใหญ่ขึ้นมา สั่งนักข่าวห้ามนั่งไขว่ห้างก็สั่ง ทั้งที่หากว่ากันตามจริงบุคลิกภาพและภาษากายของพล.อ.ประยุทธ์ น่าจะมีปัญหามาโดยตลอด ไม่ว่าจะในเวทีระดับประเทศหรือการปรากฏตัวในเวทีระหว่างประเทศ ประชาชนต้องอดทนมาโดยตลอด บุคลิกภาพสีหน้าแววตาภาษากายการควบคุมอารมณ์ที่แสดงออกของบุคคลระดับผู้นำประเทศ น่าจะต้องมีมาตรฐานที่สูงกว่านี้ “สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล ก่อนพล.อ.ประยุทธ์ จะไปห้ามปรามหรือสั่งการใครให้มีมารยาท ต้องเริ่มต้นที่ตัวเองก่อน เพราะตราบที่การสั่งการสวนทางกับสภาพที่แท้จริงที่ตัวพล.อ.ประยุทธ์แสดงออกต่อบุคคลอื่น คำสั่งการนั้นย่อมไม่เป็นผล” นายอนุสรณ์กล่าว
วันที่ 22 มีนาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ตำรวจแถลงสรุปภาพรวมเหตุชุมนุมเมื่อ 20 มีนาคม ที่ผ่านมาอีกครั้ง โดยทางพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น.ว่าวันดังกล่าวได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวกันเคลื่อนขบวนไปยังท้องสนามหลวง ในขณะนั้น พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงครามได้ประกาศเตือนว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายให้ยุติการชุมนุม แต่ทางผู้ชุมนุมไม่เชื่อฟัง ได้ผลักดันเจ้าหน้าที่ตำรวจและเคลื่อนเข้าไปยังท้องสนามหลวง จากนั้นผู้ชุมนุมได้รื้อถอนแนวรั้วลวดหนามที่จัดทำไว้เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นบริเวณพื้นที่ต้องห้าม เมื่อรื้อถอนรั้วลวดหนาม ได้พยายามทำร้ายตำรวจที่รักษาการณ์อยู่บริเวณดังกล่าว ทุบทำลายสิ่งของของทางราชการ ไม่ว่าจะเป็นกล้องวงจรปิด ขว้างปาสิ่งของ ใช้ไม้และเหล็กทำร้ายตำรวจ นอกจากนี้กลุ่มผู้ชุมนุมยังได้รื้อถอนตู้คอนเนอร์ออกจากแนวเขตหวงห้ามที่ตำรวจตั้งไว้ ตำรวจจึงได้ประกาศเตือนให้หยุดการกระทำเป็นระยะๆ แต่ผู้ชุมนุมไม่ได้สนใจ กลับขว้างก้อนหิน ขว้างระเบิดเพลิง โยนไปป์บอมบ์ ใส่ตำรวจ ที่รักษาการอยู่บริเวณดังกล่าว กระทั่งเวลา 19.00 น. ผู้ชุมนุมได้รื้อตู้คอนเทนเนอร์อีก 1 ตู้ และระดมปาวัตถุระเบิดเพลิง ไปป์ลบอมบ์ใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และพยายามฝ่าฝืนเข้าไปในพื้นที่สำคัญ และเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนชาวไทย ไม่ว่าจะเป็นศาลหลักเมือง วัดพระแก้ว กระทรวงกลาโหม และสถานที่อื่นๆ ในบริเวณดังกล่าว เหตุทั้งหมดทำให้ตำรวจฉีดน้ำเตือน แต่ผู้ชุมนุมยังไม่หยุดการกระทำ กลับละเมิดกฎหมายหลายมาตรา ตำรวจจึงมีความจำเป็นต้องควบคุมสถานการณ์ จากการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้ ทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 50 นาย […]
จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เสร็จภารกิจประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลรอสัมภาษณ์ ซึ่งนายกฯ ได้เดินมาหาผู้สื่อข่าว พร้อมนำสเปร์ยแอลกอฮอล์ฉีดมายังผู้สื่อข่าวนั้น โดย นพ.อิราวัต อารีกิจ หรือหมออั้ม โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวว่า “ฝากหมอทวีศิลป์ กับ คุณอนุทิน บอกนายพวกคุณหน่อยครับ อย่าทำอะไรโง่ๆ แบบนี้อีก แอลกอฮอล์-น้ำยาทำความสะอาด เป็นอันตรายต่อเยื่อบุผิว โดยเฉพาะดวงตา รวมไปถึงจมูก หลอดลมฯลฯ อายสายตาชาวโลกจริงๆ”