Tag: ปิยะ ต๊ะวิชัย

เมื่อเวลา 11.00น.วันที่ 21 พฤศจิกายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.พร้อม พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษก ตร.แถลงแนวทางการดูแลและการจัดจราจรกรณีกลุ่มผู้ชุมนุม”นักเรียนเลว”นัดรวมตัวทำกิจกรรมที่แยกราชประสงค์ตั้งแต่เวลา 13.00น.ของวันนี้ไปจนถึงช่วงค่ำ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า มาตรการจัดวางกำลังและการบริหารจัดการรักษาความสงบเรียบร้อยของตำรวจนครบาลต่อม็อบนักเรียนเลววันนี้ตั้งแต่เวลา 11.00น.-22.00 น. มีตัวแทนแจ้งจัดการชุมนุมต่อ สน.ลุมพินี ด้านถนนเกสร ถึงห้างบิ๊กซีราชดำริ เพื่อเรียกร้องการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำของเด็กและสตรีในสังคม ตำรวจได้รับทราบและกำหนดเงื่อนไขชุมนุมตามนี้ 1.ควบคุมผู้ชุมนุมให้อยู่ในสี่แยกราชประสงค์ตามที่แจ้ง ไม่ให้ไปที่อื่น 2.ห้ามใช้ป้ายข้อความหมิ่นประมาทยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวาย 3.ห้ามเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมไปพื้นที่อื่น 4.ใช้เครื่องขยายเสียงตามที่กำหนดระดับเสียงสูงสุดไม่เกิน 115 เดซิเบล และไม่เกิน 70 เดซิเบลตลอดการชุมนุม 5.การชุมนุมต้องเป็นไปอย่างสงบ ปราศจากอาวุธ ไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดีและละเมิดสิทธิผู้อื่น โดย บช.น.แบ่ง 2 จุดควบคุม คือช่วงแยกราชประสงค์ถึงราชดำริ เป็นพื้นที่ตำรวจนครบาล 5 ส่วนถนนพระรามที่ 1 มาถึงฝั่งห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นพื้นที่ตำรวจนครบาล 6 พ.ต.อ.กฤษณะ […]

เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 19 พ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. ฐานะโฆษก บช.น. กล่าวถึงกรณีการชุมนุมของกลุ่มราษฎร และกลุ่มคนเสื้อเหลือง ที่บริเวณแยกเกียกาย ใกล้กับรัฐสภา เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา และเกิดเหตุปะทะว่า กรณีกลุ่มผู้ชุมนุม 2 ฝ่ายที่มีการยิงกันบริเวณรัฐสภาทราบตัวมือยิงแล้วหรือไม่นั้น ขณะกำลังอยู่ระหว่างตามหาชายสวมใส่ชุดสีชมพู คาดว่าน่าจะเป็นการ์ดของกลุ่มราษฎรนำอาวุธปืนมาก่อเหตุบริเวณดังกล่าว เริ่มเปิดฉากยิงก่อน พร้อมทั้งมีการนำรถน้ำวิ่งเข้าใส่ประชาชนที่ชุมนุมกันอยู่บริเวณแถวถนนทหาร โดยมีปลอกกระสุนตกอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งต้องหาข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุมีลักษณะเป็นมืออาชีพในการก่อเหตุหรือไม่ ขอขอบคุณประชาชนและสื่อมวลชนที่ให้ข้อมูลซึ่งสอดคล้องกับภาพกล้องวงจรปิดที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าผู้ก่อเหตุดังกล่าวเป็นใคร คาดว่าน่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้ ส่วนมีกระสุนที่มาจากฝั่งตรงข้ามกลุ่มราษฎรหรือไม่นั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงแล้วคาดว่ากระสุนอยู่บริเวณแยกเกียกกายและกระสุนปืนดังกล่าวมาจากกลุ่มพวกเขาเอง ซึ่งอยู่ระหว่างรอรับพยานหลักฐานดังกล่าวเพื่อทำการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ในการตรวจร่องรอยกระสุนและการยิง ส่วนเป็นยิงกันเองของกลุ่มราษฎรหรือไม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวน ส่วนไม่พบกลุ่มตรงข้ามหรือบุคคลที่อยู่ในตรอกซอกซอยยิงเข้ามาเลยหรือไม่นั้น ขอให้เป็นเรื่องเกี่ยวกับสำนวนการสอบสวน “ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคนกลางไม่ใช่คู่ขัดแย้ง เราเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย มีหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมาย เมื่อคุณกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด ในองค์ประกอบข้อกฎหมาย จึงต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ไม่ใช่ความผิดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถดำเนินคดีได้ แม้ว่าจะถูกย่ำยีขนาดไหน ผบ.ตร.ได้สั่งการ ตำรวจต้องอดทนต่อความเจ็บใจ อดทนด้วยความเหนื่อยยาก […]

วันที่ 18 พ.ย.63 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงว่า ตามที่ผู้ชุมนุมประกาศมาชุมนุมแยกราชประสงค์และมาทำกิจกรรมหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น หากเป็นการชุมนุมโดยสงบสามารถทำได้ แต่หากชุมนุมโดยผิดกฎหมายและทำลายทรัพย์สิน ตำรวจมีอำนาจระงับอะไรก็ตามที่ขัดต่อกฎหมาย ด้านพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. กล่าวว่า จากกรณีผู้ชุมนุม 4 กลุ่มแจ้งชุมนุมต่อเจ้าหน้าที่เพียง 3 กลุ่ม อีก 1 กลุ่มไม่ได้แจ้งการชุมนุม ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย จากนั้นเวลา 14.00 น. วันที่ 17 พ.ย. กลุ่มราษฎรเคลื่อนชุมนุมาและทำลายแนวป้องกันของตำรวจ ทำให้ตำรวจจำเป็นต้องระงับเหตุตามกฎหมายและหลักสากล โดยไม่ใช้กระสุนยางและกระสุนจริงมาใช้ปฏิบัติงาน ซึ่งตำรวจดำเนินการกับผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่ายด้วยข้อกำหนดของกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน “สิ่งที่เกิดขึ้นตามข่าวปลอม โดยนำภาพการเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมที่แจ้งการชุมนุมตามกฎหมาย ซึ่งตำรวจนำกลุ่มดังกล่าวย้ายไปอีกฝั่ง แต่มีผู้ไม่หวังดีมาทำข่าวปลอมว่าเป็นการอำนวยความสะดวก ส่วนอีกเรื่องคือมีการนำภาพยาเสพติดมาใส่ในรถตำรวจ ก่อนเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ผบช.น.จึงสั่งการให้ตรวจสอบ พร้อมนำตำรวจทั้ง 7 นายของสน.บุคคโล ไปตรวจยาเสพติด ผลตรวจเป็นลบ เพื่อความมั่นใจ เจ้าหน้าที่จึงส่งตัวตำรวจทั้ง 7 นายไปร.พ.วชิรพยาบาล ผลก็เป็นลบเช่นเดิม […]