Tag: พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

เวลา 09.30 น. วันที่ 28 พ.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาพ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุม จากนั้นเวลา 10.57 น. นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ชี้แจงว่า ยืนยันว่านับตั้งแต่มีการระบาดของโรคนี้จากประเทศจีน เมื่อปลาย ปี 62 กระทรวงสาธารณสุข และกรมความคุบโรคเปิดสวิตซ์ทันที มีการตั้งทีมป้องกันคัดกรองผู้ที่เข้าสู่ประเทศไทยตั้งแต่ก่อนสิ้นปี เตรียมองคาพยามให้พร้อม เพื่อเมื่อเปิดทำการวันที่ 3 ม.ค.63 เราจะคัดกรองผู้ที่เข้าประเทศทันที ส่วนการตำหนิว่าปล่อยให้เปิดสถานที่กลุ่มเสียง เช่นสนามมวย ผับบาร์ ยืนยันว่า เราได้ออกมาตรการควบคุมแล้ว แต่อาจหลุดไปบาง แต่เราก็สามารถสอบสวนโรคได้ ส่วนที่ทุกวันนี้ที่มีการแถลงว่ายังมีการแพร่เชื้ออยู่เป็นเพราะเราเปิดให้คนไทยที่อยู่ต่างประเทศ เดินทางเข้ามา แต่ไม่สามารถเดินทางไปไหนได้อย่างเสรี เพราะเราตรวจและควบคุมและกักกันเพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส “ขอให้มั่นใจกระทรวงสาธารณสขวันนี้เราไม่ได้การ์ดตกเลย ขอประชาชนช่วยกันตั้งการ์ด การ์ดเราต้องสูงตลอดเวลา ศัตรูของเราคือ โควิด19 […]

วันที่ 27 พ.ค. นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา โพสต์ข้อความสนับสนุนการคงไว้ซึ่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ระบุว่า ทำไมยังต้องคงใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินสู้โควิด ต่อไป อยากให้คนไทยอ่านทั้งหมดเกิน 8 บรรทัดและพิจารณาดู พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใช้ทำสงคราม พ.ร.บ.ควบคุมโรคใช้แค่ปราบโจร สรุปย่อๆ คือนายกลุงตู่ และ รัฐบาลใช้ พรก.ฉุกเฉิน ในการตั้งศบค.เพื่อสู้กับสงครามโควิด ถ้ายกเลิก พรก.ยุบ ศบค. ต้องไปใช้กฎหมายปกติคือ พรบ.ควบคุมโรคใช้คณะกรรมการควบคุมโรคแทน พ.ร.บ.ควบคุมโรค 2558 แทบทำอะไรโควิดไม่ได้ เพราะพ.ร.บ.นั้นใช้ควบคุมโรคระบาดทั่วไปเช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนก ไข้เลือดออก อหิวาตกโรค พอได้ เปรียบเหมือนแค่ระดับใช้ตำรวจจับโจรหรือปราบจลาจลในเมือง แต่โควิดเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก จึงใช้เครื่องมือ แค่ พรบ.ควบคุมโรคไม่พอ ซึ่งอาจเกิดปัญหาการสั่งการเหมือนก่อน ที่มีปัญหาเช่น การขาดหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ การไม่สามารถห้ามการสัญจร การไม่สามารถปิดสนามบินและพรมแดนได้ ฯลฯ มีปัญหาการบริหารแยกกันระหว่างกระทรวงอาทิ […]

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จำนวน 4 ฉบับ ซึ่งลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และประกาศ ณ วันที่ 26 พ.ค. 2563 ทั้งหมด ดังนี้ ประกาศ เรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร(คราวที่2) ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2563 และได้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินคราวที่ 1ออกไป จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2563 นั้นรัฐบาลได้ดำเนินบรรดามาตรการต่างๆอันจำเป็นเพื่อป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019หรือโรคโควิด-19 ทั้งการห้ามออกนอกเคหสถานภายในระยะเวลาที่กำหนดการจำกัดการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรการห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยงและการห้ามใช้อาคารหรือสถานที่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดโรครวมทั้งการแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ผ่านศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 โดยหัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในแต่ละฝ่ายได้ปฏิบัติงานตามหน้าที่และอำนาจที่ได้รับมอบหมายโดยเข้มงวด อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การระบาดของโรคดังกล่าวทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยยังไม่สิ้นสุดโดยปรากฏข้อมูลเป็นที่ประจักษ์ว่าหลายประเทศยังคงมีการระบาดและมีจำนวนผู้ติดเชื้อในระดับสูงและเมื่อได้ผ่อนคลายหรือยกเลิกมาตรการควบคุมแล้วกลับพบการระบาดของโรคระลอกใหม่ในระดับรุนแรง ดังนั้นเพื่อให้การแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวของรัฐบาลเป็นไปโดยมีเอกภาพรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพื่อรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนเป็นสำคัญ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปอีกระยะหนึ่ง โดยในระหว่างนั้นรัฐบาลจะติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อให้การป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและกำ หนดหรือผ่อนคลายมาตรการต่างๆตามความเหมาะสมโดย คำนึงถึงการดำรงชีวิตโดยปกติสุขของประชาชนไปพร้อมกันอาศัยอำนาจตามความใน มาตรา5 แห่ง พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีตามมติเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมพ.ศ.2563 จึงให้ขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีกคราวหนึ่ง สำหรับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปควบคู่กัน ทั้งนี้ ตั้งแต่ วันที่1 มิถุนายน […]

วันที่ 26 พ.ค. บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) แจ้งว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบขยายเวลาการประกาศใช้อำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ออกไปอีก 1 เดือน ระหว่างวันที่ 1 มิ.ย. – 30 มิ.ย.2563 ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เสนอ เพื่อควมคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 บริษัทฯ จึงขอแจ้งหยุดให้บริการเดินรถในเส้นทางภาคใต้ทุกเส้นทาง จนกว่าจะมีนโยบายเปลี่ยนแปลง และจะแจ้งให้ผู้โดยสารทราบอีกครั้ง เมื่อกลับมาเดินรถตามปกติ ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่คอลเซ็นเตอร์ 1490 เรียก บขส. ตลอด 24 ชั่วโมง และติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่เว็บไซต์ transport.co.th, Facebook: บขส. และ LINE: @บขส.

วันที่ 26 พ.ค. ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ออกไปอีก 1 เดือน ถึงวันที่ 30 มิ.ย.2563 ส่วนในวันที่ 27 พ.ค. คณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่มีพล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสมช. เป็นประธาน จะประชุมเพื่อพิจารณาผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมระยะที่ 3 นางนฤมล ภิณโณสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม. ประจำวันที่ 26 พ.ค. 2563 แทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งติดภารกิจ ว่า รัฐบาลเห็นชอบให้ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อใช้ควบคุมการแพร่ระบาดโรคไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ออกไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่ 1-30 มิ.ย. 2563 โดยมาตรการการผ่อนปรน 3 และ 4 จะชัดเจน หลังเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ศบค.ในวันศุกร์ 29 […]

เมื่อเวลา 13.55 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการประชุม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ วันที่ 26 พ.ค.ว่า ตนไม่ไป จะไปทำไม ผู้สื่อข่าวถามกรณีฝ่ายค้านไม่อยากให้ขยายเวลาประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า มีทั้งอยากและไม่อยาก ก็ต้องไปดู ผู้สื่อข่าวถามว่าการคงพ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้เพื่อไม่ให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็รู้อยู่แล้วว่ามีความจำเป็น ถ้าเกิดระบาดมาอีกระลอกใหม่จะยุ่งกันใหญ่

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 พ.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ชุดใหญ่ โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวก่อนเริ่มการประชุม ว่า ขณะนี้ทุกคนเริ่มเข้าใจถึงการใช้ชีวิตแบบปกติใหม่ หรือ new normal และรู้จักเสียสละ และที่ช่วยสนับสนุนข้าวของช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานที่ได้รับผลกระทบ นอกเหนือจากระเบียบราชการที่ให้การช่วยเหลือ ซึ่งรัฐบาลกำลังพิจารณาเพิ่มเติมอยู่ ทั้งนี้ขอชื่นชมการปฎิบัติหน้าที่ของทุกคนจนได้รับความชื่นชมจากหลายประเทศ อย่างไรก็ตาม การประชุมวันเดียวกันนี้ เป็นการรับทราบรายงานสถานการณ์โควิด 19 หลังผ่อนคลายในระยะ 2 และการพิจารณาข้อเสนอของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช. )ที่ให้ขยายเวลาการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก 1 เดือนให้ครอบคลุมเดือนมิ.ย. ตามที่พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)ในฐานะหัวหน้าสำนักงานประสานงานกลาง ศบค. เสนอ เพื่อเป็นเครื่องมือในการควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพก่อนการคลายล็อกระยะ 3 และระยะ 4 โดย นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก […]

วันที่ 21 พ.ค. นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีมีการแสดงความคิดเห็นหลังจากที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีมติขยายเวลาประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯออกไปอีก 1 เดือน เพื่อความมั่นคงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ที่ไม่มีเหตุผลและข้อเท็จจริง การขยายเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เป็นไปตามมติของที่ประชุม สมช. ที่พิจารณาถึงสถานการณ์ด้านสาธารณสุข ความปลอดภัยของประชาชน และประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก ตราบใดที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกันต้องมีมาตรการดูแลอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดในระลอกที่สอง ที่ผ่านมาประชาชนได้เรียนรู้และป้องกันตนเองเป็นอย่างดี และเชื่อว่าเข้าใจถึงเหตุผลความจำเป็นและเห็นด้วยกับการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไปอีก และต่อไปจะมีการเตรียมผ่อนคลายระยะที่ 3 และ 4 เพื่อให้ประชาชนทำกิจกรรมได้ตามปกติได้มากขึ้น นางนฤมล กล่าวอีกว่า ส่วนมาตรการการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงผู้ประกอบการต่างๆ รัฐบาลได้ดำเนินการเยียวยามาผู้ที่ได้รับกระทบบางส่วนแล้ว และยังมีมาตรการเยียวยาออกมาอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมให้ความช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนของทุกคน ขอให้ทุกคนมั่นใจ และให้ความร่วมมือก้าวผ่านสถานการณ์ไปด้วยกัน

วันที่ 21 พ.ค.63 พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ แถลงภายหลังการประชุมหารือพิจารณาการต่อ อายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า ที่ประชุมมีมติ ขยายการประกาศใช้ พ.ร.ก. ไปอีก 1 เดือน คือ มีผลบังคับใช้ ในเดือน มิ.ย. สาเหตุเพราะหลังจากนี้ จะมีการผ่อนปรนในระยะที่ 3 โดยจะมีการผ่อนคลายในหลายกิจกรรมที่จะพิจารณา ทำให้เจ้าหน้าที่มีความจำเป็นต้องคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อเอาไว้คุมมาตรการต่างๆ จากนี้ เตรียมนำมติที่ประชุม นำเสนอต่อ ศบค. และ ครม. ต่อไป ทั้งนี้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้มีอำนาจใช้ในเดือน เม.ย.ทั้งเดือน และต่ออีกครั้ง ในเดือน พ.ค. โดยพบว่า ผลจากการใช้ พ.ร.ก.ได้ผลดี ซึ่งช่วงต้นการควบคุมโรคในช่วงต้น เราทำไม่ได้มาก จึงใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการคุมสถานการณ์ และทำให้สามารถจัดตั้ง ศบค. และควบคุมกิจการต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ การควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดได้ผลดี ได้รับคำชมจาก […]

วันที่ 20 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการ ในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 เปิดเผยว่าในวันนพรุ่งนี้ (21 พ.ค.63) สมช. จะประชุมหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 เพื่อประกอบการพิจารณาการขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่จะครบกำหนดในวันที่ 31 พ.ค. 2563 นี้ เพื่อเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือ ศบค. เพื่อเห็นชอบ ก่อนนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้เห็นชอบต่อไป ส่วนการผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 3 พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่าทางคณะกรรมการเฉพาะกิจเปิดเผยว่าการผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 3 อาจเริ่มขึ้นได้ในช่วงต้นเดือน มิ.ย. 2563 แต่การผ่อนปรนระยะที่ 2 จะต้องอยู่ในเกณฑ์ความปลอดภัยตามหลักของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นหลักคิดตั้งแต่เริ่มต้นในการผ่อนปรนมาตรการ โดยต้องรอผลและความเห็นจากทางกระทรวงสาธารณสุขด้วย ส่วนธุรกิจผู้ประกอบการบางกิจการ อาทิ นวดแผนโบราณ รวมถึงสถานบันเทิง ผับบาร์ ที่เรียกร้องอยากจะให้มีการผ่อนปรน ในระยะที่ 3 นั้น พล.อ.สมศักดิ์ […]