Tag: อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ช็อปเลยที่ลาซาด้า >> https://bit.ly/3spCJdu เมื่อเวลา 14.50 น. วันที่ 19 ส.ค.64 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนเริ่มกิจกรรมกลุ่มทะลุฟ้า ที่ประกาศผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า วันนี้มี #ม็อบ19 สิงหา ไล่ล่าทรราช ” ขับไล่รัฐบาลและนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ลาออกจากตำแหน่ง ได้มีตำรวจและหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด นำกำลังเข้าตรวจสอบโดยรอบพื้นที่ เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย และความปลอดภัยของกลุ่มผู้ชุมนุม ก่อนถึงเวลานัดหมายของกลุ่มทะลุฟ้า ทั้งนี้มีมวลชนคนเสื้อแดง เริ่มทยอยมาร่วมตัวกันโดยรอบ มีการเล่นดนตรีสด พร้อมด้วยประชาชนและคนเสื้อแดง ทำกิจกรรมเล่นดนตรี ระหว่างรอการทำกิจกรรมหลัก ต่อมาเวลา 15.20 น. นายนวพล ต้นงาม แกนนำจัดกิจกรรม เดินทางมาถึงเข้าพูดคุยกับกลุ่มมวลชน โดยมีมวลชนกลุ่มทะลุฟ้าเริ่มทยอยเข้ามาในพื้นที่ สำหรับกิจกรรมวันนี้ประกอบด้วย การปราศรัย เพื่อสื่อสารถึงเหตุผลของการออกมาขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ และทำกิจกรรมในเชิงสัญลักษณ์นำผ้าดำคลุมพานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมโปรยกระดาษ เพื่อสื่อถึงความ มืดมนของประชาธิปไตยในประเทศ โดยมีกำหนดยุติกิจกรรมเวลา 19.30 น. เบื้องต้นจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ไม่พบความผิดปกติเกิดขึ้น ส่วนมวลชนเริ่มทยอยกันเดินทางกันเข้ามาบ้างส่วน ส่วนของการจราจรยังเปิดให้รถสัญจรได้ตามปกติ เจ้าหน้าที่นำแผงเหล็กกั้นไว้เฉพาะบริเวณพื้นที่ส่วนมวลชน และฝั่งโรงเรียนสตรีวิทยา […]

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นายอรรถพล บัวพัฒน์หรือ ครูใหญ่ ได้ขึ้นปราศรัยบนรถโมบายพร้อมประกาศว่า เรียกร้องให้ปล่อยตัว นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ นายอานนท์ นำภา นายปติวัฒน์ หรือหมอลำแบงค์ สาหร่ายแย้ม และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำที่ถูกดำเนินคดีกรณีการชุมนุม และได้ถูกควบคุมตัวในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร หลังจากนี้ ภายใน 7 วัน ยังไม่มีการปล่อยตัว จะมารวมตัวกันอีกครั้ง โดยล่าสุด นายอรรถพล ได้นำแกนนำเดินเท้าไปยังศาลหลักเมืองด้วย

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ กลุ่มราษฎรจัดกิจกรรม “นับ 1 ถึงล้าน คืนอำนาจให้ประชาชน” โดยมวลชนพากันนำกระถางต้นไม้ของ กทม.จากฐานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ออกมาวางตามทางเท้ารอบถนน ทั้งนี้คาดว่าหลังรื้อต้นไม้เสร็จสิ้นก็จะนำผ้าสีแดงขนาดใหญ่ที่เขียนข้อความต่างๆ ไว้ ปีนขึ้นไปคลุมรอบฐานอนุสาวรีย์ต่อไป อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่าการทำกิจกรรมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เข้าขัดขวางหรือสั่งห้ามแต่อย่างใด

นที่ 13 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งแนวร่วมกลุ่มราษฎร ได้นัดชุมนุมกัน ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป โดยแจ้งผ่านโซเชียล เรียกร้องคืนอำนาจให้ประชาชน ทั้งนี้ ไมค์ ภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง เปิดเผยว่า จุดประสงค์ที่นัดหมายมาในวันนี้ คือ มาดูแลอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หลังถูก กทม. นำต้นไม้มาวางบดบังภูมิทัศน์ โดยจะนำเอาสิ่งแปลกปลอมออกไป อีกหนึ่งกิจกรรมคือ การให้ประชาชนร่วมกันเขียนยกเลิก ม.112 ลงบนป้ายผ้าแดง ยาว 30 เมตร เพื่อแสดงพลังว่า ไม่เห็นด้วยกับ ม.112 เนื่องจากเชื่อว่าเป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการปิดปากผู้ที่เห็นต่าง ซึ่งไม่มีประโยชน์กับระบอบประชาธิปไตยเลย ส่วนเพื่อน 4 คน ที่ถูกดำเนินคดีอยู่ ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม แต่ในใจก็อยากให้ออกมา ซึ่งทั้ง 4 คน ยังเป็นผู้ต้องหาที่ยังไม่ถูกศาลพิพากษาว่าเป็นคนผิด และเชื่อว่าการที่ถูกนำไปขังในเรือนจำ เป็นการกลั่นแกล้ง เนื่องจากคงกลัวทั้ง 4 คน […]

จากกรณี มวลชนต้านรัฐบาลหลายองค์กร ที่ร่วมกันกันจัดกิจกรรม ม็อบเฟสต์ ขึ้นที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2563 โดยกลุ่มผู้ชุมนุมนำผ้าขาวขนาด 30×30 เมตร มากางออกเปิดให้ผู้ที่เดินทางมาร่วมชุมนุมร่วมกันเขียนข้อความ ขึ้นไปพันรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมร่วมใจกันชูสามนิ้วและส่องแฟลชจากโทรศัพท์มือถือขึ้นไปยังอนุสาวรีย์ เพื่อแสดงจุดยืนในการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญให้เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชนอย่างแท้จริง ต่อมา วันที่ 15 พ.ย.2563 พล.อ.ม.จ.จุลเจิม ยุคล นายทหารพิเศษ แสดงวามคิดเห็นถึงกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมนำผ้าขาวขึ้นไปพันรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยระหว่างการชุมนุมเมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “ถ้าปล่อยให้มันเล่นกันสนุก ไร้ค่า ทุบทิ้งเถอะ ไม่มีประโยชน์ เกะกะทางสัญจร” พร้อมกับลงชื่อ ม.จ. จุลเจิม ยุคล ล่าสุด อานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน และแกนนำกลุ่มราษฎร โพสต์ข้อความถึงประเด็นนี้ความว่า ถ้าจะเอาตรรกะของคุณจุลเจิมที่ว่าอะไรไม่มีประโยชน์ไร้ค่าก็ต้องทุบทิ้งนี่ระวังเข้าตัวนะครับ

วันที่ 14 พ.ย.63 บรรยากาศที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ภายหลังจากที่มีการนำผ้าสีขาวขึ้นคลุมบริเวณอนุสาวรีย์ หลังจากนั้นก็มีการฉายเลเซอร์ที่ระบุข้อความต่างๆ แสดงข้อเรียกร้องในการชุมนุม ก่อนหน้านี้แกนนำกลุ่มนักเรียนเลว กล่าวว่า ผ้าผืนนี้แสดงเจตจำนงของประชาชน จะถูกนำไปเคียงคู่อยู่กับพานรัฐธรรมนูญ เพื่อประกาศจุดยืนว่า รัฐธรรมนูญต้องเป็นของประชาชน มาจากประชาชนเท่านั้น และผ้าผืนนี้ได้เขียนความปรารถนาทั้งหลายของประชาชนแล้ว

วันที่ 14 พ.ย. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศม็อบเฟสต์ (mob fest) บริเวณรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นไปอย่างคึกครื้น มีประชาชนพร้อมกลุ่มนักกิจกรรมทยอยเดินทางเข้าร่วมไม่ขาดสาย โดยมีการตั้งเวทีย่อย ที่ถนนราชดำเนินกลาง สี่แยกคอกวัว พร้อมรถขายอาหารคาวหวานครบครันเข้าประจำการในพื้นที่ และเสียงดนตรีจากซุ้มกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะซุ้มอาหาร ป็อบคอร์น-ชานมไข่มุก ของนักแสดงหญิง ทราย เจริญปุระ ที่ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก ส่วนการจราจรโดยรอบยังคงสภาพปกติ โดยถนนราชดำเนินกลางฝั่งอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา มีประชาชนพร้อมเจ้าหน้าที่สวมเสื้อสีเหลืองรอรับเสด็จ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.น หลายกองร้อยควบคุมดูแลรักษาความปลอดภัยเข้มงวด ล่าสุดเวลา18.25 น.กลุ่มผู้ชุมนุมนำผ้าผืนสีขาวผืนใหญ่ที่เขียนข้อความตั้งแต่ช่วงบ่าย เป็น “สารจากราษฏร” พร้อมบันไดปีนขึ้นไปผูกผ้าด้านบนของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยได้สำเร็จ

วันที่ 5 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กเยาวชนปลดแอก โพสต์ภาพพร้อมข้อความนัดหมายชุมนุมใหญ่ ในวันอาทิตย์ที่ 8 พ.ย.ที่จะถึงนี้ พร้อมข้อความระบุว่า ไม่มีอะไรมาประกันความสำเร็จ แต่สิ่งเดียวที่ช่วยยืนยันว่าแสงสว่างของประชาชนอยู่ไม่ไกล คือการออกมาของประชาชนหลายล้านคนทั่วประเทศ เป็นเวลากว่า 4 เดือนนับตั้งแต่มีการเริ่มออกมาประท้วงบนท้องถนน ออกมาร่วมกันให้แสงสว่างนั้นขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม ทั้งนี้ เพจดังกล่าวยังระบุอีกว่า วันที่ 8 พ.ย.นี้ เวลา 16.00 น. ออกมาร่วมกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนเตรียมเดินขบวน เขียนจดหมายของทุกคน พื่อเตรียมยื่นถึงตัวแทนของสำนักพระราชวัง ขอทุกคนจงออกมาร่วมกันยืนยันว่าประเทศนี้ดีกว่านี้ได้ ร่วมกันยืนยันใน 3 ข้อเรียกร้อง คือ พล.อ.ประยุทธ์ ต้อลาออก แก้ไขรัฐธรรมนูญ และ ข้อเสนอการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์

กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเรียนชี้แจง กรณีการควบคุมตัวกลุ่มผู้ชุมนุม บริเวณอนุสาวรีย์ ประชาธิปไตยเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 13 ตุลาคม 2563 ดังต่อไปนี้ ด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความจำเป็นที่จะต้องจัดระเบียบความปลอดภัยและการจราจรบริเวณพื้นที่ โดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งปรากฏว่ามีการตั้งเต็นท์ กีดขวางการจราจรและมีการใช้เครื่องขยาย เสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สั่งให้กลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวแก้ไข แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ปฏิบัติ ตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซ้ำยังก่อความวุ่นวายโดยการสาดสีใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นการมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัว ผู้กระทำความผิดรวม 21 ราย ส่งพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ดำเนินคดีในหลายข้อหา เช่น 1.ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานตาม ป.อาญา ม.368 2.มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตาม ป.อาญา ม.215 3.กีดขวางการจราจรตาม พรบ.จราจรทางบก ม.114, 148 4.ตั้ง วาง หรือกองวัตถุใด ๆ บนถนนฯ, ในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพรบ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.๒๕๓๕ 19,39,40,32 5.สาดสีลงบนพื้นถนนพรบ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.๒๕๓๕ […]