ในขณะนี้ประเทศไทยถูกวิพากษ์วิจารณ์จากองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนต่างชาติ หลังทางการไทยตั้งข้อหาดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ต่อผู้นำการประท้วงกลุ่มราษฎร ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีแกนนำถูกดำเนินคดีด้วยข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มากขึ้น อามัล คลูนีย์ ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศ ระบุในแถลงการณ์ของมูลนิธิคลูนีย์เพื่อความยุติธรรม ระบุว่า “ไม่สมควรที่จะมีใครต้องถูกจับกุมคุมขังเพราะการวิพากษ์วิจารณ์เจ้าหน้าที่รัฐหรือระบบของรัฐบาล” และ “รัฐบาลไทยไม่ควรตอบโต้การประท้วงโดยสงบด้วยการใช้การดำเนินคดีปิดปากกวาดล้างผู้ชุมนุมประท้วง” โดยแถลงการณ์ของ มูลนิธิคลูนีย์เพื่อความยุติธรรม ระบุว่า “มูลนิธิจับตาการตั้งข้อหาแกนนำการประท้วงในไทยหลายคน เช่น อานนท์ นำภา และพริษฐ์ ชิวารัษ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ถูกดำเนินคดีในข้อหายุยงปลุกปั่น ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา มูลนิธิคลูนีย์ฯตั้งข้อสังเกตด้วยความกังวลว่าแกนนำหลายคนกำลังเผชิญข้อกล่าวหารุนแรงเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับการดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ท่ามกลางการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย ในช่วงเวลาที่มีการเรียกร้องประชาธิปไตยในประเทศไทย สำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องมีการปกป้องสิทธิในการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมอย่างสงบ สิทธิในการแสดงความคิดเห็น รวมไปถึงสิทธิในการวิพากษ์วิจารณ์บุคคลสาธารณะ และการใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เป็นการละเมิดเสรีภาพที่เป็นแกนหลักดังกล่าว จากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ใช้กฎหมายทุกมาตรากับผู้ประท้วง มูลนิธิคลูนีย์ฯ เรียกร้องให้รัฐบาลไทยยุติการดำเนินคดีกับอานนท์ นำภา, พริษฐ์ ชิวารักษ์ และแกนนำเคลื่อนไหวคนอื่นๆ รวมถึงยุติการใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เพื่อลงโทษทางอาญาต่อกลุ่มผู้ชุมนุมที่เคลื่อนไหวเรียกร้องอย่างสันติ” อามัล คลูนีย์ เธอเป็นทนายความด้านสิทธิมนุษยชน และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศ จบการศึกษาจาก St. Hugh’s College at […]
