เมื่อวันที่ 10 มี.ค.2564 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตนเองได้เปลี่ยนชื่อเพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิต โดยเปลี่ยนจาก “สุภรณ์” เป็น “เสกสกล” ความหมายคือ ผู้บันดาลให้เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์มั่นคง โดยหลวงพ่อเกจิอาจารย์ที่ตนนับถือมายาวนาน เป็นเจ้าอาวาสวัดท่านหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นผู้ตั้งชื่อใหม่นี้ให้ “หวังว่ามีชื่อใหม่แล้วจะมีแต่ความเป็นสิริมงคลในชีวิต มีผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาลเมตตา มีอนาคตในหน้าที่ทางการเมือง ประสบความสำเร็จก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป” นายเสกสกล กล่าว
Tag: สุภรณ์ อัตถาวงศ์
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2564 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ในโอกาส ‘วันสตรีสากล’ ระบุว่า ไทยยังตกอยู่ในสภาวะที่สิทธิเสรีภาพถูกลิดรอน ต้องแก้รัฐธรรมนูญให้ยึดโยงประชาชน คุ้มครองเสรีภาพ ลดความเหลื่อมล้ำว่า เรื่องดังกล่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยเฉพาะในประเด็นที่ไทยยังตกในสภาวะที่สิทธิเสรีภาพถูกลิดรอน ซึ่งหากนางสาวยิ่งลักษณ์ฯ หมายถึงการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของกลุ่มม็อบ 3 นิ้ว ขอยืนยันว่า นายกฯ ไม่เคยห้ามให้มีการชุมนุมตั้งแต่แรก เพียงแต่ขอให้เป็นไปด้วยความสงบ ไม่ผิดกฎหมาย แต่ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมไม่เคยทำตามกฎหมายเลยแม้แต่น้อย มีแต่ใช้ความรุนแรง ตรงข้ามเจ้าหน้าที่ถูกทำร้ายบาดเจ็บมากมายแต่เจ้าหน้าที่ยังใช้ความอดทนอย่างสูง ยังไม่เคยทำให้ผู้ชุมนุมเสียชีวิตแม้แต่รายเดียว มีแต่ใช้กฎหมายเข้ามาดำเนินการกับผู้ชุมนุม ไม่เหมือนรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ที่ใช้การสลายที่รุนแรง คุกคามสิทธิประชาชนมากกว่าหลายเท่า นายสุภรณ์กล่าวว่า ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ และนายกฯ หรือรัฐบาลได้สนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่ โดยไม่เข้าไปแทรกแซง หรือมีใบสั่งให้กับสมาชิกรัฐสภาเลย อีกทั้งตลอดการบริหารบ้านเมือง นายกฯ รัฐบาลได้ดูแลประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ยึดโยงประชาชนเป็นหลัก ไม่เคยไปคิดก้าวล่วงสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่ใช้ชีวิตอย่างปกติสุข รัฐบาลยังได้ออกกฎหมายคุ้มครองสิทธิ และเพิ่มสวัสดิการให้กับสตรี เด็กเยาวชน ผู้พิการ ผู้สูงอายุ […]
เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2564 ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวผ่าน PM PODCAST ทางเพจเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้าระบุว่า ให้รักสามัคคี ไม่แตกแยก เคารพกฎหมาย ป้องกันความขัดแย้ง นั้น นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า สถานการณ์บ้านเมืองกำลังประสบกับปัญหาโควิด-19 จึงจำเป็นที่จะต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วน ทั้ง ส.ส.รัฐบาล ส.ส.ฝ่ายค้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ขณะนี้ยังคงมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ควรเห็นแก่ประเทศชาติประชาชน ไม่ควรเล่นการเมืองมากเกินไปจนบ้านเมืองบอบช้ำเสียหาย ซึ่งไม่เป็นผลดีเลยสักนิด เพราะประเทศชาติเป็นของพวกเราทุกคนที่ต้องช่วยกันดูแลรักษาให้เจริญรุ่งเรือง นายสุภรณ์ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ยังออกมาบอกแล้วว่าไม่อยากให้มีการชุมนุมเกิดขึ้น มีอะไรก็มาพูดจากันอยากได้อะไรก็มาว่ากัน ดังนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมก็ควรที่จะหันมาพูดคุยกันดีๆ ซึ่งตนมั่นใจว่ารัฐบาลพร้อมที่จะรับฟัง แต่ข้อเสนอต้องอยู่ภายใต้ของกฎหมายด้วย นายสุภรณ์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมานายกฯ และรัฐบาล พยายามทำทุกวิถีทาง และทำงานอย่างเต็มที่เพื่อที่จะหามาตรการต่างๆ ออกมาให้ความช่วยเหลือประชาชน ทั้งมาตรการที่จะทำให้สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ขณะนี้ก็เห็นแล้วว่าจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงมาก ขณะเดียวกันมีมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งได้ทุ่มเทลงสู่ประชาชนเยียวยาทุกกลุ่มจนเป็นที่พอใจอย่างมาก […]
วันที่ 5 มี.ค.64 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปราศรัยใหญ่ช่วยผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 3 นครศรีธรรมราช ระบุ พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ก่อตั้งมานาน เป็นสถาบันทางการเมือง ไม่เหมือนบางพรรคการเมืองตั้งมาเพื่อสนับสนุนให้ใครคนใดคนหนึ่งขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ว่า หากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์หมายถึงพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่เลือกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย และพรรคพลังประชารัฐไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อเลือกนายกฯ เพียงอย่างเดียว พรรคมีนโยบายมากมายที่ทำให้ประชาชน และการเลือกพล.อ.ประยุทธ์มาเป็นนายกฯ เพราะที่ผ่านมาทำงานเพื่อบ้านเมือง แก้ไขปัญหาต่างๆ ได้เป็นอย่างดี “นายจุรินทร์ไม่ควรเอาเรื่องดังกล่าวมาปราศรัยหาสียง เพียงเพื่อขอคะแนนกับประชาชนเพียงหวังชนะการเลือกตั้งโดยไม่ระมัดระวังคำพูด เข้าใจว่านายจุรินทร์ ต้องหาเสียงช่วยผู้สมัครของพรรค แต่การปราศรัยพาดพิงพรรคอื่นหรือบุคคลอื่นในลักษณะเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เป็นการดูถูก พูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ทำให้ประชาชนเข้าใจในพรรคพลังประชารัฐหรือนายกรัฐมนตรีผิดไป”นายสุภรณ์กล่าว นายสุภรณ์ กล่าวต่อด้วยว่า นายจุรินทร์ ต้องอย่าลืมว่าที่พรรคประชาธิปัตย์ และนายจุรินทร์ ได้เข้าร่วมรัฐบาล เป็นรองนายกรัฐมนตรี เป็นรมว.พาณิชย์ ส่วนหนึ่งก็มาจากพรรคพลังประชารัฐ และมาจากพล.อ.ประยุทธ์เช่นกัน สิ่งสำคัญนโยบายต่างๆ ในการช่วยเหลือประชาชนในหลายนโยบาย ก็มาจากแนวคิดพรรคพลังประชารัฐ และของนายกฯ ในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย […]
วันที่ 5 มี.ค.64 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวพาดพิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า นายสุภรณ์ อย่าทำตัวเป็นคนอยากดัง บิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะการปราศรัยของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค เป็นการกล่าวปราศรัยนำเสนอนโยบายตามปกติ เพื่อการบอกกล่าวประชาชนให้เห็นถึงความเป็นสถาบันทางการเมืองของพรรค การนำนโยบายที่ได้ประกาศไว้จนผลักดันเป็นผลสำเร็จเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน เช่น โครงการประกันรายได้ เป็นเรื่องปกติของการปราศรัย อย่ากลัวความสำเร็จของโครงการประกันรายได้ นายสุภรณ์เป็นนักการเมืองมานานน่าจะเข้าใจ และควรใจกว้างในการรับฟังคนอื่นบ้าง พรรคเข้าร่วมรัฐบาลไม่ใช่เข้าร่วมเพื่อประโยชน์ของพรรค หรือเพื่อประโยชน์ส่วนตัวของใคร แต่เข้าร่วมเพื่อทำประโยชน์ให้กับประชาชน คนอย่างนายจุรินทร์ไม่คิดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ไม่อยากให้นายสุภรณ์สับสนคิดว่าคนอื่นเหมือนกับตน การช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรของนายจุรินทร์นั้น ตนไม่เชื่อว่านายสุภรณ์จะดูถูกว่าเป็นการช่วยเหลือแบบมั่ว แบบหว่านแห สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน ทั้งๆที่ประชาชนพี่น้องเกษตรกรได้ประโยชน์ ส่วนที่นายสุภรณ์กล่าวหาว่าใครก็เป็นรัฐมนตรีได้เพราะขอเงินลูกเดียวไม่ต้องใช้สมองนั้น นายราเมศกล่าวว่า ขอเตือนคนพูดว่าควรใช้สมองคิดมากกว่า เพราะแค่พูดก็ยังไม่มีปัญญาพอจะสื่อสารออกมาอย่างสร้างสรรค์ได้เลย นายราเมศกล่าวว่า นายสุภรณ์อย่าทำตัวอยากดังจนเกินงามชาวบ้านในเขตพื้นที่ที่เป็นพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง ชาวสวนปาล์มอ่านข่าวคุณสุภรณ์แล้วไม่พอใจมาก และฝากให้ตบปากเพราะดูถูกนโยบายที่ดีที่ช่วยเกษตรกร แต่ตนคงไม่ทำเพราะเสียดายมือไม่อยากเปลืองสเปรย์ฆ่าเชื้อ เกษตรกรชาวสวนยางและสวนปาล์มฝากบอกไปยังนายกรัฐมนตรีว่าหากให้คนแบบนี้ออกมาตอบโต้ก็จะเป็นกาลกิณีกับรัฐบาล เราอย่าเปิดศึกกันเลย เงียบๆ บ้างก็ดี เพราะหากเป็นแบบนี้ก็ไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย และไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ช่วยกันทำงานเพื่อประชาชนและประเทศจะสร้างสรรค์กว่า
วันที่ 3 มี.ค. นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ “อาจารย์อ๊อด” อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปะศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาลัยกำแพงแสน พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานโครงการศึกษา สำรวจและรูปแบบการพัฒนาน้ำบาดาลจากแหล่งกัดเก็บในหินแข็งระดับลึก ในพื้นที่ธรณีวิทยาโครงสร้างซับซ้อน (บ่อน้ำพุโซดา) บ้านทุ่งคูณ หมู่ 19 ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี เพื่อตรวจบ่อน้ำพุโซดา ติดตามโรงผลิตน้ำดื่มจากบ่อน้ำพุโซดา และระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำ นายสุภรณ์ และคณะได้ทดลองดื่มน้ำแร่โซดาที่บริเวณบ่อน้ำดิบที่ยังไม่ผ่านการกรอง และทดลองดื่มน้ำแร่โซดาที่ผ่านระบบการกรองที่ได้มาตรฐานน้ำดื่ม พร้อมกล่าวว่า ตนได้พูดคุยกับอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และมีแนวทางที่จะเรียนนายกรัฐมนตรี ว่าอยากจะมีงบประมาณจำนวนหนึ่งหรือประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท เพื่อนำมาสร้างโรงงานผลิตน้ำดื่มที่เป็นของรัฐ โดยเฉพาะน้ำแร่ ผลิตเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในยามเกิดวิกฤตภัย อุทกภัยน้ำท่วม เพื่อนำไปแจกจ่ายให้ตามครัวเรือนที่ประสบอุทกภัย หรือแม้กระทั่งพี่น้องที่ประสบปัญหาวิกฤตภัยแล้งก็สามารถนำไปแจกจ่ายได้ หากรัฐบาลมีโรงงานของรัฐเอง โดยให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเป็นเจ้าภาพจะสามารถผลิตน้ำดื่มที่มีคุณภาพขึ้นมาใช้เอง ตนเชื่อมั่นว่าต่อไปพี่น้องประชาชนจะมีน้ำอุปโภคและบริโภคที่สะอาดดื่มทุกครัวเรือนและเป็นน้ำที่มีคุณภาพทางแร่ธาตุด้วย ซึ่งหากรัฐบาลลงมือทำประชาชนจะได้ประโยชน์และประชาชนคนไทยจะได้ดื่มน้ำที่สะอาดจริง
วันที่ 14 ก.พ.64 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การชุมนุนที่สนามหลวง เมื่อวานนี้ (13 กุมภาพันธ์) ว่าเกิดความวุ่นวายขึ้น เพราะผู้ชุมนุมไม่ยึดการชุมนุมโดยสันติ เห็นได้ชัดว่ามีการใช้อาวุธ ระเบิด และทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่เคยใช้ความรุนแรง และแม้ว่าแกนนำจะประกาศยุติการชุมนุมแล้ว ผู้ชุมนุม ก็ยังไม่ยอม และสร้างความวุ่นวายต่อจนเกิดการปะทะกัน มีความพยายามกดดันให้ศาลปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกดำเนินคดี ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ตนเองขอประณามการกระทำ ที่เป็นการใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ ส่วนกรณีที่ ปรากฎภาพหน่วยพยาบาล ถูกทำร้ายร่างกายเป็นเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายทั้งสองฝ่าย ฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องทำการตรวจสอบต่อไปว่าใครเป็นคนทำร้าย ส่วนที่ผู้ชุมนุมขีดเส้น 7 วัน ต้องปล่อยตัวผู้ถูกจำกุมตัว ยืนยันว่า บ้านเมืองมีกฎหมาย ซึ่งทำคนต้องทำตามกฎหมาย จะบังคับให้ใคร ทำอย่างที่ตัวเองต้องการไม่ได้
เมื่อเวลา 12.55 น. วันที่ 13 ก.พ.64 ที่โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ควีนส์ปาร์ค นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานคณะทำงานสนับสนุนผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ (สสอ.) กล่าวว่า ทีมวอร์รูมนอกสภาฯ ที่มีคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีจากทุกกระทรวง ทุกพรรคการเมืองประชุมร่วมกันไปแล้ว 2 ครั้ง โดยในวันอภิปรายจะใช้ห้องวอร์รูม ที่อาคารรัฐสภา ชั้น 4 ห้องของนายสิระ เจนจาคะ ประธานกรรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อประสานงานการทำงานของคณะทำงาน ทั้งนี้ ในการสัมมนาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลในวันเดียวกันนี้ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีมาร่วมกัน 10 คน เพื่อมาประสานงานกับ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และนายทศพล เพ็งส้ม ฝ่ายกฎหมายพรรคพลังประชารัฐเพื่อมาพูดคุยกันในประเด็นข้อกฎหมาย ว่าในกรณีที่พรรคการเมืองและส.ส.อภิปรายพาดพิง จาบจ้วง กล่าวล้วงสถาบันฯในทางเสียหาย เราจะดำเนินการคดีตามมาตรา 112 ทันทีโดยไม่รอเวลา ยืนยันว่าเราจะดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะถือว่าญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ […]
วันที่ 24 ม.ค.64 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทย วิจารณ์การทำงานของนายกรัฐมนตรี 7 ปี สู้ โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ทำวันเดียวไม่ได้ ว่า อยากให้พรรคเพื่อไทย ย้อนกลับไปว่า นับตั้งแต่ รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ทำอะไรบ้าง “อย่าว่าแต่แค่คำสั่งที่มิชอบที่ ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ เคยทำเอาไว้เลย พล.อ.ประยุทธ์ มาล้างโครงการโคตรโกงที่รัฐบาล2พี่น้องเคยทำเอาไว้มากมาย และยังมีผลงานโปรเจคในรัฐบาลนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมากมาย แต่ไม่เคยมีข่าวทุจริตเรื่องการเรียกเก็บสินบนใต้โต๊ะเหมือนในสมัยรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย เหมือนในอดีตยุคของทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ที่ปล่อยให้ เจ้ ด.เข้ามาสั่งการทุกเรื่อง” “พล.อ.ประยุทธ์ ต้องใช้ความสามารถหาเงินใช้หนี้แทนหลายโครงการ อาทิ โครงการจำนำข้าว ที่ต้องหาเงินมาช่วยชาวนาหลังจาก เจ๊ ด. หอบเงินแสนล้านหนีไปสมทบพี่ชาย น้องสาวในต่างประเทศ ไปเสวยสุขกันที่นั่น ปล่อยให้ลิ่วล้อติดคุกติดตะราง กันจนทุกวันนี้ คนไทยไม่มีวันลืมได้ลง และเจ็บปวดหัวใจที่สุด” แรมโบ้ กล่าว นายสุภรณ์ กล่าวอีกว่า ยังไม่หมดเท่านี้ โครงการโคตรโกงที่ศาลตัดสินแล้ว […]
วันที่ 20 ม.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.30 น. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้มอบหมายให้ นายเนวินธุ์ ช่อชัยทิพย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับ นายทศพล เพ็งส้ม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ยื่นแจ้งความที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ชั้น 4 ศูนย์ราชการ อาคาร B การแจ้งความครั้งนี้ เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิด นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ฐานความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทยอยู่ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 บัญญัติไว้ว่า “ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี” และด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ปี 2560 ที่ระบุว่า ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน […]